EKH - ซื้อ (20 ก.ค.64)

EKH - ซื้อ (20 ก.ค.64)

ประมาณการ 2Q64F: ผลการดำเนินงานน่าประทับใจ

Event

ประมาณการ 2Q64, ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY64-65 และปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย

lmpact

คาดว่ากำไรใน 2Q64 จะแข็งแกร่งมากทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดว่าผลประกอบการของ EKH จะออกมาน่าพอใจใน 2Q64 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 45 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY, +34.7% QoQ) คิดเป็น 26.9% ของประมาณการกำไรใหม่สำหรับปีนี้ของเราที่ 168 ล้านบาท โดยประเด็นสำคัญที่น่าสนใจได้แก่:

i) กำไรมีแนวโน้มแข็งแกร่ง เราคาดว่ารายได้ของ EKH จะอยู่ที่ 234 ล้านบาท (+100.1% YoY, +10.0%) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 40.0% จาก 17.2% ใน 2Q63 และ 32.6% ใน 1Q64 โดยมีแรงหนุนจาก i) การรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากการให้บริการตรวจ COVID-19 ประมาณ 14,000 ราย โดยมีผู้ป่วยที่ชำระค่าตรวจเองเพิ่มขึ้นใน 2Q64 เนื่องจาก COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสามในประเทศไทย (จาก 20,000 รายซึ่ง NHSO จ่ายค่าตรวจต่ำกว่า สำหรับการตรวจเชิงรุกในช่วงที่เกิดการระบาดระลอสองในจังหวัดสมุทรสาครใน 1Q64) และ ii) คุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี

ii) ธุรกิจการรักษาพยาบาลทั่วไปในโรงพยาบาลดีขึ้น YoY ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน เราคาดว่ารายได้จากธุรกิจการรักษาพยาบาลทั่วไปในโรงพยาบาลของ EKH (ศูนย์ฉุกเฉิน, ศูนย์กุมารเวช,ศูนย์สูติ-นรีเวช และคลีนิค IVF) จะเพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากผู้ป่ วยกลับมาใช้บริการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลอีกครั้ง สำหรับใน 2Q64F เราคาดว่ารายได้จากธุรกิจการรักษาพยาบาลทั่วไปในโรงพยาบาลและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 จะมีสัดส่วน 50:50

ผลประกอบการใน 3Q64 ยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง

จากการที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสามในประเทศไทย เราคาดว่ากำไรของ EKH ใน 3Q64 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจาก i) จำนวนผู้ป่ วยยังคงเพิ่มขึ้นจากการระบาดที่ยังคงรุนแรง ii) ฐานกำไรที่ต่ำ YoY ใน 3Q63 และ iii) คุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY64-65F ขึ้นอีก 34.4% และ 37.5%

เมื่ออิงตามประมาณการ 2Q64F เราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าขึ้นจากเดิม เนื่องจาก i) เราปรับเพิ่มการเติบโตของรายได้ YoY ในปี 2564-65F ขึ้นจากเดิมอีก 14.8% และ 22.4% ii) เราปรับลดสมมติฐานสัดส่วน SG&A/รายได้ ในปี 2564-65F ลงเหลือ 18.0-19.0% (จากเดิม 20.0%) นอกจากนี้ เรายังปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2564-65F เป็น 38.0% และ 42.0 (จากเดิมที่ 36.5% และ40.0%) เพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มจะสูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ จากการประหยัดต่อขนาดของบริการตรวจ COVID-19 และการกักตัว ดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2564F จะอยู่ที่ 168 ล้านบาท (+132.7% YoY) และปี 2565F จะอยู่ที่ 212 ล้านบาท (+26.1% YoY)

Valuation & Action

เมื่ออิงตามประมาณการใหม่ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ใหม่ที่ 8.60บาท (ใช้ WACC ที่ 9% แลเ TG ที่ 3%) จากเดิมที่ 7.20 บาท

Risks

COVID-19 ระบาด, เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่ และเกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่