กลุ่มธุรกิจ 'ฟิตเนส' เรียกร้อง 'เยียวยาโควิด' หวั่นถูกลืม

กลุ่มธุรกิจ 'ฟิตเนส' เรียกร้อง 'เยียวยาโควิด' หวั่นถูกลืม

มาตรการ "เยียวยา" ล่าสุดของภาครัฐ มีการขยายให้ครอบคลุม 9 กลุ่มอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้กลุ่มธุรกิจฟิตเนส ได้เคยออกมาเรียกร้องให้เยียวยาพวกเขาด้วย พาไปย้อนรอยดูประเด็นนี้อีกครั้ง

หลังการออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด "โควิด-19" เพิ่มเติมและเข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส และสถานที่ฝึกซ้อมกีฬาถูกปิดยาวนานมากกว่าเดิม จนทำให้กลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจสถานออกกำลังกาย-ฟิตเนส และนักกีฬาทีมชาติ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ต่อมาจึงมีการรวมตัวกันของตัวแทนกลุ่มฯ นำโดย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ ไปยื่นเสนอให้มีมาตรการเยียวยากลุ่มธุรกิจนี้อย่างเป็นธรรมด้วย

โดยความเดือดร้อนจากการระบาดจของศโควิดในระลอกล่าสุดนี้ ยังส่งผลกระทบไปถึงกลุ่มนักกีฬาทีมชาติไทยประเภทต่างๆ เพราะเมื่อสถานฝึกซ้อมกีฬาขนาดใหญ่อย่างการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ถูกสั่งปิด นักกีฬาก็ขาดสถานที่พัฒนาตนเอง  ซึ่งอาจส่งผลร้ายต่อการแข่งขันกีฬาในนามของประเทศไทยได้

กลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจสถานออกกำลังกายฯ ร่วมยื่นข้อเรียกร้องให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาสมช. และ ผอ.ศบค.ก่อน แล้วจึงไปยื่นข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี

โดย พล.อ.ณัฐพลยืนยันว่า จะนำข้อเรียกร้องดังกล่าวไปหารือและพิจารณาในที่ประชุมของ ศบค. ต่อไป พร้อมกันนี้ ยังยินดีรับฟังข้อเสนอและจะไปหารือในการประชุม ศบค.ว่า จะมีมาตรการช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง และจะให้ความสำคัญในการเร่งการพิจารณาให้ กกท. สามารถเปิดพื้นที่ให้นักกีฬาทีมชาติเข้าซ้อมได้

ทางตัวแทนกลุ่มฯ จึงอยากขอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการเยียวยาโควิดหรือให้ความช่วยเหลือ 5 ข้อ ดังนี้

1. ยกเลิกคำสั่งปิดกิจการแบบเหมารวม 

ที่ผ่านมาพบว่ามีคนติดเชื้อโควิดจากสถานออกกำลังกายน้อยมาก และสถานออกกำลังกายถือเป็นจุดสำคัญที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำให้คนสุขภาพดีขึ้น โดยควรให้ปิดเฉพาะสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นเวลา 14 วัน และหากสถานประกอบการใดที่พบผู้ติดเชื้อก็ต้องมีการทำความสะอาดสถานที่ตามมาตรฐานของกรมอนามัยและกรมควบคุมโรค

2. ขอปลดล็อกธุรกิจสถานออกกำลังกายและฟิตเนส

ขอให้มีคำสั่งปลดล็อกให้ธุรกิจสถานออกกำลังกายและฟิตเนสกลับมาเปิดบริการได้ภายในวันที่ 1 ส.ค. 2564 ภายใต้มาตรการป้องกันโรคตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข เช่น การเว้นระยะห่าง การจำกัดจำนวนคน การรักษาความสะอาดและสุขอนามัย  

3. จัดสรรวัคซีนให้กลุ่มธุรกิจนี้โดยเร็ว

พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจโดยเร็วที่สุด ภาครัฐสามารถถือโอกาสนี้เก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจดังกล่าว เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ในอนาคต 

4. มีนโยบายพักชำระหนี้/กู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ

พิจารณาให้มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการพักชำระหนี้/การกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อรักษาสภาพคล่องธุรกิจและการจ้างพนักงานจากการปิดธุรกิจชั่วคราว รวมถึงส่วนลดหรือเลื่อนชำระค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ตลอดจนลดหย่อนภาษีรายได้ส่วนบุคคลของผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับสถานออกกำลังกายและฟิตเนส 

5. เปิดช่องทางรับฟังประชาชนมากขึ้น

เปิดช่องทางการสื่อสาร เพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการประชาชนที่เดือดร้อน เพื่อให้ทราบถึงมุมมอง ผลกระทบ ความยากลำบากของผู้ประกอบอาชีพในกลุ่มต่างๆ ก่อนที่ภาครัฐจะออกมาตรการต่างๆ

---------------------------

ที่มา : ปริญญ์​ พานิชภักดิ์​ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ก.ค. 2564), springnews