สรรพากรดึงค้าออนไลน์เข้าระบบดันยอดยื่นแบบพุ่ง3.5แสนราย

นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากรเปิดเผยผลการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2564ว่า ณ วันที่ 1 ส.ค.นี้ มีผู้ยื่นแบบภาษีเข้ามาจำนวน 11.05 ล้านแบบ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 3.5 แสนราย ในจำนวนนี้ เป็นการยื่นแบบผ่านระบบออนไลน์ถึง 93% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 3%

สำหรับสาเหตุที่ยอดการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก เป็นเพราะกรมฯได้นำระบบ Data analytics มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ ส่งผลให้นำผู้ที่มีรายได้แต่อยู่นอกระบบภาษีเข้ามาสู่ระบบภาษีจำนวนที่มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มที่ค้าขายออนไลน์

“ในช่วงที่ผ่านมา มีผู้ค้าออนไลน์เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนที่เพิ่มขึ้นมากนี้ ยังมีผู้ที่ยังไม่เข้าสู่ระบบภาษี และรวมถึง ผู้ประกอบอาชีพอิสระต่างๆ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษีรายอื่น เราจึงได้นำระบบ Data analytics มาใช้ในการประเมินและวิเคราะห์ เพื่อดึงคนนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ผ่านมา เราได้ส่งหนังสือไปถึงผู้ค้าขายออนไลน์ที่มีรายได้ให้เข้ามาอยู่ในระบบภาษีอย่างถูกต้อง ทำให้ยอดการยื่นแบบแสดงรายการผู้เสียภาษีดังกล่าวเพิ่มขึ้น”

ทั้งนี้ ผลการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ดังกล่าว ทำให้ยอดการชำระภาษีในปี 2564 ณ วันที่ 1 ส.ค.นี้ อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 1.03 พันล้านบาท

อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ยื่นขอคืนภาษีในปีนี้นั้น กรมฯได้ดำเนินการคืนไปแล้วประมาณ 91% คิดเป็นจำนวนเงิน 4.49 หมื่นล้านบาท จากจำนวนที่ยื่นขอคืนภาษีทั้งหมด 3.61 ล้านแบบ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดการขอคืน 3.29 ล้านแบบ

สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ของกรมฯนรอบ 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 กรมฯจัดเก็บได้ 1.31 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.37 หมื่นล้านบาท หรือ 4.3% แต่ต่ำกว่าประมาณการ 1.3 แสนล้านบาท หรือ 9.0%

ส่วนผลการจัดเก็บรายได้รวมของรัฐบาล กระทรวงการคลังรายงานว่า รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.73 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1.95 แสนล้านบาท หรือ 10.1% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.95 หมื่นล้านบาท หรือ 2.9% โดยการจัดเก็บรายได้ ของกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจต่ำกว่าประมาณการ

ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าประมาณการเป็นผล จากภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จากอัตรา 3%เหลือ 2 % สำหรับการเสียภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์(e-Withholding Tax) เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและโควิด-19เป็นสำคัญ