PTG - ซื้อ (19 ส.ค.64)

PTG - ซื้อ (19 ส.ค.64)

อดเปรี้ยวไว้กินหวาน

Event

เรามองลบกับข้อมูลที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์รอบ 2Q64, ปรับลดประมาณการกำไรปี 2564-65 ลง และปรับลดราคาเป้าหมายลง

Impact

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2564/65F ลง 5%/2%

เราปรับลดประมาณการกำไรของ PTG ในปี 2564 ลง 5% เหลือ 1.9 พันล้านบาท และปี 2565 ลง 2% เหลือ 2.2 พันล้านบาท เนื่องจากปรับปริมาณยอดขายลดลงเพราะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ที่กลับมาระบาดระลอกสามในประเทศไทยตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา ทั้งนี้บริษัทปรับลดเป้าจำนวน
สถานีบริการน้ำมันปีนี้ลงจากเดิม 2,030 สถานี เหลือเพียง 1,940 สถานี (+52 สถานีจากปี 2563 เพิ่มขึ้นน้อยกว่าในสถานการณ์ปกติที่เพิ่มปีละประมาณ 100 สถานี) เนื่องจากมีการปรับลดงบลงทุน (CAPEX) ลงเหลือ 3.0-3.5 พันล้านบาท จากเดิมที่ 4.0-4.5 พันล้านบาท ดังนั้นเราจึงปรับลดสมมติฐานปริมาณยอดขายน้ำมันปีนี้ลง 5% เหลือ 5,100 ล้านลิตร และปีหน้าลง 4% เหลือ 5,661 ล้านลิตร แต่อย่าไรก็ตามเราปรับเพิ่มสมมติฐานค่าการตลาดน้ำมันของทั้งปีนี้และปีหน้าขึ้นอีก 0.03 บาท/ลิตร เป็น 1.87 บาท/ลิตรในปี 2564 และเป็น 1.83 บาท/ลิตรในปี 2565 เนื่องจากบริษัทสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพจนทำให้ค่าการตลาดน้ำมันในงวด 1H64 สูงถึง 1.89 บาท/ลิตร ในขณะเดียวกันเรายังคงประมาณการรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันปี 2564-65 เอาไว้ที่ 5.1 พันล้านบาท และ 5.6 พันล้านบาทตามลำดับ โดยคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจที่ไม่ใช้น้ำมันในปีนี้และปีหน้าเอาไว้ที่ 28.5%

คาดว่ากำไรใน 3Q64 จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ QoQ

บริษัทให้ข้อมูลว่าปริมาณยอดขายน้ำมันลดลง 12% YoY ในเดือนกรกฎาคม และคาดว่าจะลดลงอีก 6-8% YoY ในเดือนสิงหาคมเนื่องจาก COVID-19 ระบาดหนักในประเทศไทย เราประเมินในเบื้องต้นว่าปริมาณยอดขายน้ำมันใน 3Q64 จะลดลง 7% YoY และ 11% QoQ เหลือประมาณ 1,150 ล้านลิตร ซึ่งจะทำให้ประมาณการกำไรใน 3Q64 ลดลงอย่างมาก แม้เราจะคาดว่าค่าการตลาดน้ำมันของ PTG จะยังอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 1.80-1.90 บาท/ลิตรใน 3Q64 ใกล้เคียงกับใน 1H64 ที่ 1.89 บาท/ลิตร

Valuation & Action

เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2565 ลงเหลือ 26.50 บาท จากเดิม 27.00 บาท อิงจาก P/E ที่ 20x เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลง ทั้งนี้ถึงแม้เราจะคาดว่ากำไรใน 3Q64 จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่เราคาดว่าปริมาณยอดขายน้ำมันใน 4Q64 จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก QoQ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 น่าจะดีขึ้นในเดือนตุลาคม และอุปสงค์การเดินทางน่าจะเร่งตัวขึ้นถ้าหากรัฐบาลผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางและมาตรการ lockdown นอกจากนี้ PTG ยังมีปัจจัยกระตุ้นอีกสองเรื่องได้แก่ การที่บริษัทจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) สำหรับธุรกิจ LPG
ใน 4Q64 ตามด้วยธุรกิจ biodiesel ใน 1H65 ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ PTG

Risks

ความผันผวนของค่าการตลาดน้ำมัน, ราคา CPO และ margin ของ B100 รวมถึงการเปลี่ยนเกณฑ์การใช้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานในประเทศไทย