เศรษฐกิจ
“พาณิชย์” ชงตั้ง “กองทุน FTA” เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดการค้าเสรี
“จุรินทร์” เคาะตั้งกองทุนเอฟทีเอ เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก FTA ทั้งภาคการผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม และภาคบริการ พร้อม ส่ง “คลัง” พิจารณาก่อนเสนอ ครม. เห็นขอบต่อไป
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เห็นชอบข้อเสนอการจัดตั้งกองทุนความตกลงการค้าเสรีหรือกองทุนเอฟมีเอ หลังที่คณะทำงานพิจารณาแนวทางการพัฒนากองทุนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้จัดทำข้อเสนอการจัดตั้งกองทุน FTA ต่อนายจุรินทร์
ทั้งนี้นายจุรินทร์ได้ส่งข้อเสนอดังกล่าวไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว ทั้งนี้เพื่อขอให้นำเรื่องการขอจัดตั้งกองทุน FTA ของกระทรวงพาณิชย์ เข้าสู่การพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนของกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี พร้อมกันนี้ทางกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินกระบวนการรับฟังความเห็นต่อ ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งกองทุน FTA ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีตามกระบวนการตรากฎหมายด้วยต่อไป
สำหรับกองทุน FTA ที่เสนอจัดตั้ง จะมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก FTA ทั้งภาคการผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม และภาคบริการ โดยจะให้ความช่วยเหลือใน 2 รูปแบบ คือ เงินจ่ายขาด เช่น การวิจัยพัฒนา การจัดหาที่ปรึกษา การฝึกอบรม กิจกรรมที่สนับสนุนการตลาด และเงินกู้ยืม เช่น เงินลงทุน ค่าใช้จ่ายหมุนเวียน โดยจะดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานทั้งรัฐ เอกชน เกษตร วิชาการ และธนาคาร เพื่อเป็นตัวกลางให้กับกลุ่มผู้ขอรับความช่วยเหลือในการช่วยเขียนโครงการและเสนอโครงการมายังกองทุน
ส่วนที่มาของเงินกองทุนส่วนใหญ่ จะขอทุนประเดิมจากรัฐบาล 5,000 ล้านบาท และจากงบประมาณประจำปี 120-150 ล้านต่อปี นอกจากนี้ กองทุนจะมีการพิจารณาจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ที่ได้ประโยชน์จาก FTA ทั้งผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และผู้ประกอบการในภาคการผลิตและภาคบริการด้วย ซึ่งในเบื้องต้นได้มีข้อเสนอให้จัดเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ขอใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าที่ประสงค์จะใช้สิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับการส่งออกภายใต้ FTA โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและไม่เป็นภาระเกินความจำเป็นต่อภาคเอกชน ซึ่งก็จะนำมาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นหลัก
ทั้งนี้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานว่า การจัดตั้งกองทุน FTA อย่างเป็นรูปธรรม จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นต่อการจัดทำ FTA เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและรักษาความสามารถในการแข่งขันของไทย และเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบแก่ทุกภาคส่วน ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 178 ที่ได้กำหนดให้มีการเยียวยาที่จำเป็นอันเกิดจากผลกระทบทางด้านนี้
ปัจจุบันประเทศไทยมีความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ และ เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ประเทศสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี และเปรู และความตกลง RCEP ที่กำลังจะมีผลใช้บังคับในปีหน้าจะเป็นฉบับที่ 14 ของไทย