AWC บูม 'อควอทีค-พัทยา' ดึงโรงแรมหรู เดอะวีนแยทท์ฯ ให้บริการ

ด้านเครือไอเอชจีกางแผนขยายพอร์ตโรงแรมแบรนด์ เดอะ วีนแยทท์ฯ กว่า 100 แห่งทั่วโลกภายใน 10 ปีข้างหน้า

แม้ภาคธุรกิจโรงแรมไทยจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 มานานกว่า 18 เดือน แต่บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เจ้าของธุรกิจโรงแรม บริการ และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินรวม ณ วันที่ 30 มิ.ย.2564 กว่า 134,284 ล้านบาท ภายใต้ร่มใหญ่ “ทีซีซี กรุ๊ป” ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ยังคงเดินหน้าลงทุนพัฒนาโรงแรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยเชื่อมั่นในศักยภาพของภาคท่องเที่ยวไทยในระยะยาว

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า บริษัทฯได้ร่วมกับไอเอชจี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท (IHG) เปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ในเมืองพัทยา ด้วยการนำแบรนด์โรงแรมใหม่ในกลุ่มลักชัวรีและไลฟ์สไตล์ของไอเอชจี ภายใต้ชื่อ “เดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น” (Vignette Collection) มารีแบรนด์โรงแรมเดิมซึ่งใช้ชื่อว่า แกรนด์ โซเล่ พัทยา โดยบริษัทฯใช้เงินลงทุน 1,900 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องพัก 234 ห้อง ร้านอาหารต่างๆ รูฟท็อปบาร์ สระว่ายน้ำ สปา และห้องประชุมพื้นที่กว่า 670 ตารางเมตร เปิดให้บริการช่วงต้นปี 2567

“โรงแรมเดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น จะเป็นโรงแรมแห่งแรกในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หรือมิกซ์ยูส “อควอทีค บาย เดอะ บีช” (Aquatique by The Beach) ของบริษัทฯที่นำร่องเปิดให้บริการก่อนโรงแรมและองค์ประกอบอื่นๆ”

• เดินหน้าลุยมิกซ์ยูสพัทยาหมื่นล้าน

สำหรับโครงการอควอทีคฯ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา มีมูลค่าโครงการรวมมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยโรงแรม 5 แห่ง เป็นแบรนด์โรงแรมของเครือไอเอชจี 2 แห่ง, แบรนเด็ด เรสซิเดนส์, รีเทล เป็นเซ็นเตอร์ของร้านค้า ศูนย์รวมร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว และการแสดงโชว์ต่างๆ ภายใต้คอนเซปต์ Fun and Entertainment ผ่านการเล่าสตอรี่เกี่ยวกับตำนาน ความสุข และความสนุกริมทะเล, เวลเนส และกิจกรรมกีฬา มุ่งสู่การเป็นคอมเพล็กซ์แห่งไลฟ์สไตล์และความบันเทิงแห่งแรกในพัทยา และจุดหมายปลายทางระดับโลกให้กับนักเดินทางรุ่นใหม่

“แม้ปัจจุบันวิกฤติโควิด-19 จะยังคงอยู่ แต่บริษัทฯเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะสามารถเติบโตได้ในระยะยาว จึงเตรียมเปิดให้บริการโรงแรมเดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น ที่พัทยา เพื่อตอบโจทย์เชิงกลยุทธ์ รองรับจังหวะการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่น่าจะค่อยๆ ดีขึ้น” นางวัลลภากล่าว

 

• เปิดเดอะวีนแยทท์ฯ 100 แห่งใน 10 ปี

นายราจิต สุขุมารัน กรรมการบริหาร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี ไอเอชจี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า เดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น เป็นแบรนด์โรงแรมใหม่ในกลุ่มลักชัวรีและไลฟ์สไตล์ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วของเครือไอเอชจี ประกอบด้วย ซิกส์เซนส์, รีเจนท์, อินเตอร์คอนติเนนตัล, คิมป์ตัน และโฮเทล อินดิโก้ โดยพอร์ตโฟลิโอกลุ่มลักชัวรีและไลฟ์สไตล์ของเครือไอเอชจีมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยจำนวนโรงแรมกว่า 400 แห่ง คิดเป็นห้องพักกว่า 1 แสนห้องทั่วโลก

ทั้งนี้ เครือไอเอชจีตั้งเป้าเปิดโรงแรมภายใต้แบรนด์ เดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น จำนวน 100 แห่งทั่วโลก ภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยแบรนด์นี้จะเน้นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และมีสไตล์เฉพาะตัว มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เครือไอเอชจีเป็นผู้นำตลาดด้านการเติบโตของห้องพัก และขยายพอร์ตโฟลิโอของเครือไอเอชจีเป็นทั้งหมด 17 แบรนด์ จากปัจจุบันมีจำนวนโรงแรมประมาณ 6,000 แห่ง ครอบคลุมกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

โดยผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 เครือไอเอชจีได้เปิดโรงแรมแห่งใหม่จำนวน 132 แห่ง และเซ็นสัญญารับบริหารโรงแรมใหม่อีก 200 สัญญา สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ดีของนักท่องเที่ยวต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในระยะยาว

• ดึงโรงแรมเล็กทั่วโลกสวมแบรนด์ใหม่

นางสาวเซเรน่า ลิม รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี ไอเอชจี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท กล่าวเสริมว่า สำหรับเหตุผลที่เครือไอเอชจีเปิดตัวแบรนด์ใหม่ดังกล่าวในช่วงนี้ หลังได้ข้อมูลจากเจ้าของโรงแรมขนาดเล็กที่บริหารงานเองอย่างเป็นอิสระซึ่งมีมากกว่า 1.5 ล้านห้องทั่วโลก และมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ 

เครือไอเอชจีพบว่าด้วยเครือข่ายการทำตลาดที่แข็งแกร่งและมีมาตรฐานบริการระดับสากล จะช่วยเสริมศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของโรงแรมเหล่านี้ที่อาจจะมีขนาดเล็ก แต่มีเสน่ห์เฉพาะตัว

“แบรนด์โรงแรมใหม่ เดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น จะดึงดูดเจ้าของโรงแรมได้เข้าถึงเครือข่ายระบบการตลาด ลอยัลตี้โปรแกรม และมาตรฐานบริการระดับโลกของเครือไอเอชจี ขณะเดียวกันยังสามารถรักษาอัตลักษณ์เฉพาะของโรงแรมเอาไว้ได้”

สำหรับโรงแรม 2 แห่งแรกของโลกที่กำลังจะมีการเซ็นสัญญา จะเปิดให้บริการที่พัทยาในช่วงต้นปี 2567 โดยเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญกับผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทย  “AWC” ส่วนอีกหนึ่งโรงแรมที่จะมีการเซ็นสัญญาภายใต้แบรนด์ใหม่นี้ คือ Hotel X โรงแรมระดับห้าดาว พร้อมด้วยร้านอาหารและศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ ใจกลาง Fortitude Valley ในเมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย