CENTEL - ซื้อ (27 ส.ค.64)

CENTEL - ซื้อ (27 ส.ค.64)

มัลดีฟส์จะช่วยลดผลกระทบด้าน downside

Event

ปรับประมาณการ

Impact

ผลประกอบการโรงแรมในภูเก็ตและมัลดีฟส์เห็นสัญญาณการฟื้นตัวแล้ว

เราคาดภาพรวมผลประกอบการจะเข้าสู่จุดต่ำสุดใน 3Q64F ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น แต่ในแง่ดี เราเห็นพัฒนาการเชิงบวกต่อเนื่องของโรงแรมในภูเก็ตและมัลดีฟส์ ซึ่งล่าสุดสามารถทำอัตราการเข้าพักได้ 25% และ 70% ตามลำดับในเดือนสิงหาคม 2564 เปรียบเทียบกับโรงแรมใน location อื่นๆที่ทำอัตราการเข้าพักได้เฉลี่ยต่ำกว่า 18%

ปรับประมาณการปี 2564-65F ลง 38%/105%

เราปรับประมาณการปี 2564F ลง 38% และปรับประมาณการปี 2565F ลง 105% (Figure 1 ) เพื่อสะท้อนสมมุติฐานนักท่องเที่ยวใหม่ที่ 160,000 คนในปี 2564F และ 12 ล้านคนในปี 2565F โดยสมมุติฐานหลักที่ปรับลงในปี 2564F ได้แก่ i) ปรับ RevPar ลง 29% ii) ปรับ SSSG ลดลงเหลือ -12% (จากเดิม -5%) และ iii) ปรับลดความสามารถในการทำกำไร

สำหรับธุรกิจโรงแรม เราคาด RevPar ปี 2564F จะลดลงต่อเนื่องอีก 34% YoY ขณะที่เมื่อมองไปข้างหน้า เราคาดผลประกอบการโดยภาพรวมจะทยอยฟื้นตัวได้ใน 4Q64F เป็นต้นไปจากการเร่งฉีดวัคซีนในประเทศ (Figure 5) และนโยบายสนับสนุนจากทางรัฐบาลที่จะทยอยเปิดประเทศ

สำหรับธุรกิจร้านอาหาร เราคาด SSSG จะปรับตัวลง 12% ในปี 2564F และจะฟื้นตัวเด่น 27% YoY ในปี 2565F โดยภาพรวม เราคาดธุรกิจร้านอาหารมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ไวกว่า ผลักดันจาก delivery platform และยอดขายมีแนวโน้มตอบรับเชิงบวกทันที หาก sentiment การแพร่ระบาดปรับตัวดีขึ้น

ความเสี่ยงทางการเงินไม่น่าเป็นกังวล

เรามองความเสี่ยงทางการเงินของ CENTEL ยังอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่ง โดยคาด D/E ปี 2564F อยู่ที่ 0.7 เท่า ต่ำกว่า debt covenant ที่ 2.0 เท่า

Valuation & action

เรายังคงมีมุมมองบวกเชิงบวกในระยะยาวต่อ CENTEL เนื่องจาก i) รายได้หลักของ CENTEL มาจากธุรกิจอาหาร ซึ่งน่าจะฟื้นตัวไวกว่า ii) รายได้โรงแรมประมาณ 20% ถูกกระจายออกไปที่มัลดีฟส์ และ iii) ความเสี่ยงทางการเงินค่อนข้างปลอดภัย เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายกลางปี 66 ยังคงคำแนะนำ ซื้อ
และประเมินราคาเป้าหมายที่ 39.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 17.0x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว +1.5 S.D.

Risks


จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าที่คาดไว้ และสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย