คลายล็อกดาวน์หนุน‘ฮอลิเดย์โฮม’พัทยาบูม

คลายล็อกดาวน์หนุน‘ฮอลิเดย์โฮม’พัทยาบูม

“โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้” ชี้คลายล็อกดาวน์ 1 ก.ย. สัญญาณบวก “บ้านพักตากอากาศ” เมืองพัทยา กระตุ้นดีมานด์บ้านหลังที่สอง ดึงซื้อเพื่อลงทุน-พักผ่อน “คอลลิเออร์ส” ระบุพัทยาทำเลเหมาะ พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษมีแหล่งงาน หนุนกำลังซื้อ


นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการที่รัฐบาลคลายล็อกดาวน์วันที่ 1 ก.ย. ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปี 2563 แนวโน้มการทำงานที่บ้านยาวนานขึ้น ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปและเริ่มมองหาชีวิตที่ยืดหยุ่นได้ มีพื้นที่พักผ่อนและทำงาน รวมถึงการจำกัดพื้นที่จากการประกาศล็อกดาวน์แต่ละครั้ง ทำให้ผู้คนมองหาทางเลือกบ้านพักตากอากาศ

ส่งผลดีต่อบ้านพักตากอากาศเมืองพัทยามีโอกาสฟื้นตัว โดยเฉพาะโครงการโอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา ได้รับความสนใจและยอดซื้อเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด โดยกำลังซื้อส่วนใหญ่มาจากลูกค้าในประเทศ ที่มองว่าพัทยายังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการพักผ่อน มี กิจกรรมเชิงไลฟ์สไตล์ให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำร่วมกัน ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง 2-3 ชั่วโมง

"กำลังซื้อระดับบนยังคงมองหาคอนโดมิเนียมหรูที่มองเห็นวิวทะเล มีห้องขนาดใหญ่ 80-133 ตร.ม. เป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง หรือต้องการเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน หากห้องมีขนาดเล็กเกินไป อาจไม่ตอบโจทย์ เพราะการซื้อจะมองถึงประโยชน์การใช้พื้นที่ของสมาชิกในครอบครัวได้มากกว่า"

ขณะเดียวกันมีกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนเข้ามามากขึ้น จากศักยภาพของทำเลที่ตั้งนาจอมเทียนมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต จากการก่อสร้างเส้นทางหลวงพิเศษตัดใหม่เลี่ยงเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุด ที่มีจุดทางลงอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ช่วงครึ่งแรกของปี 2564 จะไม่พบว่ามีอุปทานคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในพื้นที่พัทยา แต่ยังคงมีความคืบหน้าของดีเวลลอปเปอร์หลายรายที่มองเห็นโอกาสการลงทุนและศักยภาพของพัทยาได้เตรียมพัฒนาโครงการใหม่ โดยรอจังหวะที่เหมาะสมเมื่อตลาดกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้จำนวนหน่วยที่เปิดขายในตลาดปัจจุบันไม่ล้นเกินกว่าความต้องการซื้อที่แท้จริง

“1 ปีครึ่งที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด กำลังซื้อต่างชาติโดยเฉพาะคนจีนหายไปเหลือเพียงกำลังซื้อในประเทศ”

นอกจากซัพพลายที่มีอยู่ไม่มากจะเป็นโอกาสสร้างยอดขายให้คนไทยที่มองหาบ้านหลังที่สองในแหล่งท่องเที่ยวแล้ว “ขนาด” พื้นที่ของคอนโดมิเนียม ก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อด้วย โดยพบว่า ห้องชุดขนาดมากกว่า 100 ตร.ม. ขึ้นไปเหลืออุปทานในตลาดเพียง 1% ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายหรือราว 610 ยูนิต เพราะยูนิตเปิดขายใหม่ในโครงการต่าง ๆ ส่วนใหญ่เป็นห้องขนาดเล็ก

ภาพรวมตลาดอสังหาฯ พัทยา ซึ่งอยู่ในพื้นที่อีอีซี หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวได้จะทำให้พัทยากลับมาคึกคัก ทั้งมีกำลังซื้อจากแรงงานนอกพื้นที่เข้ามาในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ และเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญมีเม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐและเอกชนกว่า 5 แสนล้านบาท เป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ทำให้เกิดดีมานด์ซื้ออสังหาฯ เพื่อลงทุนเพิ่มขึ้น