“อาคม”ไม่รับปากช่วยซอฟท์โลนธุรกิจการบิน

“อาคม”ไม่รับปากช่วยซอฟท์โลนธุรกิจการบิน

“อาคม”เผย ผู้ประกอบธุรกิจการบิน 7 รายเข้าพบเพื่อขอคลังช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่ รูปแบบความช่วยเหลือธุรกิจสายการบินจะต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแบงก์รัฐ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดว่า วันนี้(7ก.ย.)ได้มีการประชุมวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) และสมาคมสายการบิน 7 แห่งที่เสนอขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือ “ซอฟท์โลน” วงเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งในความช่วยเหลือจากคลังนั้น จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของแบงก์รัฐ

“ต้องรอฟังข้อเรียกร้องของสายการบินก่อนว่า เป็นอย่างไร แต่ที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้มอบหมายให้เอ็กซิมแบงก์เข้าไปดูแลช่วยเหลือสภาพคล่อง รวมถึง การพักชำระหนี้ให้กับสายการบินที่เป็นลูกค้าเดิม ได้แก่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ และสายการบินไทยแอร์เอเชียแล้ว ขณะที่ ล่าสุดสายการบินไทยสมายล์ ก็ได้ช่วยเหลือเรื่องการจ้างงานไปแล้ว”

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาสายการบินได้มีการหารือร่วมกับเอ็กซิมแบงก์และธนาคารพาณิชย์อื่นๆ อย่างต่อเนื่อง แต่การช่วยเหลือนั้นก็จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน  ส่วนวงเงินช่วยเหลือของเอ็กซิมแบงก์นั้น มีทั้งใช้วงเงินของแบงก์เอง หรือ ใช้ซอฟต์โลน (สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ก็ได้

อ่านข่าว : อีอีซีลุย ’โรดโชว์’ เมืองการบินอู่ตะเภาปลายปี
 

“ในฐานะแบงก์รัฐ ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่อาจไม่เต็มที่ และไม่สามารถให้ได้ตามที่ต้องการทั้งหมด เพราะแบงก์ก็ต้องพิจารณาตามกฎเกณฑ์ที่มี เชื่อว่าเมื่อมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดค่อยๆ ผ่อนคลายลง ประกอบกับการมีวัคซีน และจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง กิจกรรมก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อสายการบิน แต่จำนวนที่นั่งผู้โดยสารอาจยังต้องจำกัดเปิดได้แค่ 70% - 80% และยังต้องดูแผนว่าจะบินได้กี่เที่ยวบิน แต่อย่างน้อยก็ยังมีรายรับเข้ามา”

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ผ่านมาเอ็กซิมแบงก์ได้ช่วยเหลือลูกค้าสายการบินเดิมไปแล้ว คือ การพักชำระหนี้ เพื่อไม่ต้องกังวลภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ยังทำการบินไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การเติมสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจจะต้องมีเครื่องมือของภาครัฐเข้ามาช่วย เช่น พ.ร.ก.ฟื้นฟูของแบงก์ชาติ เป็นต้น

ดังนั้น จึงต้องกำหนดแนวทางการช่วยเหลือไปที่การจ้างงานในระดับผู้ปฏิบัติงานไปจนถึงสิ้นปี 2564  โดยมี 2 แนวทาง คือ ใช้เงินของเอ็กซิมแบงก์เอง หรือ ใช้เงินจากประกันสังคม วงเงินรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท  ซึ่งการช่วยเหลือดังกล่าวไม่ต้องพิจารณาว่าเป็นสายการบินไทยหรือต่างประเทศ เพราะพนักงานส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานคนไทย ซึ่งการใช้วงเงินช่วยเหลือของเอ็กซิมแบงก์ จะต้องใช้สินทรัพย์ในการค้ำประกัน