“ยูไนเต็ด โปรเจคต์”ลุยบริหารงานโครงการ-ก่อสร้าง

“ยูไนเต็ด โปรเจคต์”ลุยบริหารงานโครงการ-ก่อสร้าง

“ยูไนเต็ด โปรเจคต์ ” เดินหน้าบริหารงานโครงการและงานก่อสร้างกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์การค้าขนาดกลาง ไฮเปอร์มาร์เก็ต หวังดันธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 66

นายอรุณ ศิริจานุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด บริษัทในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  เผยว่า หลังบริษัทได้ประกาศเปิดตัวดำเนินธุรกิจรับบริหารงานโครงการและบริหารงานก่อสร้าง สานต่อแนวคิด “ORIGIN NEXT LEVEL” สร้างการเติบโตในทุกมิติของเครือพรีโม และออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตของภาคการก่อสร้างทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ล่าสุด บริษัทได้รับความไว้วางใจให้บริหารงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย และโรงแรมขนาดใหญ่อีก 2 โครงการ

ขณะเดียวกันช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นมาได้เข้าร่วมประมูลงานออกแบบและควบคุมงานเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งเดินหน้าทำการตลาดกับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (Non-residential projects) อาทิ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มศูนย์การค้าขนาดกลาง หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่มีการรีแบรนด์และจำเป็นต้องดำเนินงานก่อสร้างใหม่ ขยายการรับงานทั้งในแนวลึกและแนวกว้าง เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

“แม้ในช่วงต้นไตรมาส 3 จะมีมาตรการปิดแคมป์คนงานภาครัฐในกรุงเทพฯเป็นเวลา 1 เดือน แต่บริษัทยังคงมั่นใจในศักยภาพของตลาดในอนาคต และมีขีดความสามารถที่เพียงพอจะช่วยเร่งรัดงานในมือให้ยังเสร็จสิ้นได้ตามกำหนด ปัจจุบัน เรายังคงมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากการบริหารโครงการที่ทยอยเข้าไปบริหารเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563”

นายอรุณ กล่าว ครึ่งแรกปี 2564 บริษัทมีสัญญาบริหารงานโครงการ และบริหารงานก่อสร้างในมือแล้ว จำนวน 16 โครงการ อาทิ นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง , แฮมป์ตัน ศรีราชา , ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช , Warehouse 22,000 ตร.ม. จำนวน 2 แห่ง บริเวณถนนบางนาตราด กม.19 และ กม.22 โดยมีระยะเวลาควบคุมงาน ถึงปลายปี 2565

 หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของภาครัฐจะกลับมามีบทบาทเข้มข้นในการขับเคลื่อนประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ส่งผลให้ภาคเอกชนเองพิจารณาลงทุนก่อสร้างมากขึ้น บริษัทจึงจะเร่งขยายการบริการออกไปสู่ 6 กลุ่มธุรกิจย่อย เพื่อให้ครอบคลุมทุกงานบริการวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจกำกับดูแลการบริหารโครงการ  กลุ่มธุรกิจบริหารงานก่อสร้างโครงการ กลุ่มธุรกิจบริหารงานทรัพยากรกายภาพโครงการ กลุ่มธุรกิจกำกับดูแลการออกแบบ  กลุ่มธุรกิจกำกับดูแลการตรวจสอบอาคาร และสิ่งแวดล้อม  กลุ่มธุรกิจดูแลอบรม สัมมนา และงานวิจัย 
 
โดยสัดส่วนรายได้ จะมาจากโครงการในเครือออริจิ้น ประมาณ 40% ของมูลค่ารายได้ที่พึงได้รับของการดำเนินงาน และจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ อีกราว 60% บริษัทตั้งเป้าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงไตรมาส 2/2566 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย และคาดว่าภายใน 5 ปี นอกจากบริษัทจะดำเนินงานควบคุมงานก่อสร้างแล้ว ยังมีการกระจายขอบเขตงานเพิ่มขึ้นอย่างครอบคลุมในทุกๆ ส่วนงาน ที่จะให้บริการวิชาชีพด้านวิศวกรรม และด้านสถาปัตยกรรม แบบครบวงจร