ลุ้นเปิดน่านฟ้า‘ไทย-รัสเซีย’ ดึงทัวริสต์ 5-7 แสนคนปี 65

ลุ้นเปิดน่านฟ้า‘ไทย-รัสเซีย’  ดึงทัวริสต์ 5-7 แสนคนปี 65

ก่อนเกิดโควิด-19 ประเทศไทยรั้งตำแหน่งอันดับ 4 ของจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวตลาด “รัสเซีย” รองจากตุรกี อิตาลี และจีน ส่วนใหญ่เลือกเดินทางมาจังหวัดท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล ทั้งภูเก็ต สมุย และพัทยา กระทั่งวิกฤติโรคระบาดกระทบต่อทุกตลาด! ไม่เว้นรัสเซีย

แต่ขณะนี้ได้รับสัญญาณที่ดีว่านักท่องเที่ยวรัสเซียหลายรายสนใจที่จะเดินทางมาเที่ยวไทย เพราะในเดือน ก.ย.นี้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่ชาวรัสเซียนิยมหนีหนาวเดินทางออกเที่ยวต่างประเทศ

ขนิษฐา พันธุ์วรวัฒน์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานมอสโก ประเทศรัสเซีย กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการด้านวิชาการ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ได้เห็นชอบในหลักการให้รับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีน “สปุตนิก วี” สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทางสถานทูตไทยให้ข้อมูลว่าตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมาเริ่มมีชาวรัสเซียยื่นขอใบอนุญาตการเดินทางเข้าประเทศไทย (COE) เฉลี่ยวันละ 100 รายแล้ว เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ซึ่งมีเฉลี่ยวันละ 10 ราย โดยเกือบทั้งหมดจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่นำร่องผ่านโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” และ “สมุย พลัส โมเดล”

ส่วนปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้าไทยเท่าไรนั้น โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นไตรมาส 4 ซึ่งเป็นความหวังของตลาดต่างชาติเที่ยวไทย ล่าสุดยังไม่ได้ประเมิน เพราะต้องติดตามการคลายล็อกข้อจำกัดด้านการบินเส้นทางบินระหว่างไทย-รัสเซีย เนื่องจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้ประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้มีเที่ยวบินปกติ (Regular Flight) กับทุกประเทศ โดยสถานะจะเป็นเพียงเที่ยวบินกึ่งพาณิชย์ (Semi Commercial Flight) ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาเปิดน่านฟ้าของประเทศรัสเซียยังไม่อนุญาตให้ประเทศไทยอยู่ในรายชื่อที่จะกลับมาทำการบินเที่ยวบินปกติและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ระหว่างกันได้ โดย ททท.สำนักงานมอสโกได้เสนอปัญหานี้ไปยัง ททท.ส่วนกลางเพื่อหาทางแก้ไขแล้ว

อ่านข่าว : ชาวยุโรปเน้นท่องเที่ยวภูมิภาค ชดเชย‘เอเชีย-อเมริกัน’

“ปัจจุบันประเทศรัสเซียได้เปิดน่านฟ้ากับ 56 ประเทศ จุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังเผชิญวิกฤติโควิด-19 โดยการพิจารณาเปิดน่านฟ้าเพื่อให้ทั้งไทยและรัสเซียกลับมาทำการบินแบบปกติได้นั้น จำเป็นต้องพิจารณาในระดับนโยบาย ล่าสุดรับทราบมาว่าภายในสัปดาห์นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมหารือกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เกี่ยวกับการปลดล็อกเปิดน่านฟ้าเพื่อดึงนักท่องเที่ยวรัสเซียมาไทย”

สำหรับเส้นทางบินระหว่างไทยกับรัสเซีย หลังเจอวิกฤติโควิด-19 มีแค่สายการบิน “แอโรฟลอต”  (Aeroflot) ให้บริการเส้นทาง กรุงเทพฯ-มอสโก ในรูปแบบเที่ยวบินกึ่งพาณิชย์ ความถี่ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในการนำชาวไทยและชาวต่างชาติ 10 ประเภทที่ได้รับการยกเว้นให้เดินทางเข้าไทยได้ แต่จำเป็นต้องหยุดบินชั่วคราวเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากต้องบินผ่านน่านฟ้าประเทศอัฟกานิสถาน และจะกลับมาทำการบินอีกครั้งในวันที่ 4 พ.ย.นี้ เหลือ 1 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทำให้ผู้ที่จะเดินทางจากรัสเซียมาไทย เช่น มาเข้าร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ต้องบินด้วยสายการบินอื่นๆ มาต่อเครื่องที่ฮับการบินสิงคโปร์ ดูไบ อาบูดาบี หรือโดฮา

ขนิษฐา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ “พฤติกรรมการเดินทาง” ของนักท่องเที่ยวรัสเซียเปลี่ยนไป! ส่วนใหญ่เลือกไปจุดหมายปลายทางที่ไม่มีเงื่อนไขยุ่งยากในการเข้าประเทศนั้นๆ และมีค่าใช้จ่ายไม่แพง โดยจากข้อมูลพบว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวรัสเซียเลือกจะเดินทางไปเที่ยวประเทศตุรกีมากเป็นอันดับ 1 เนื่องจากตุรกีเปิดให้นักท่องเที่ยวรัสเซียที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว เดินทางเข้าประเทศได้เลย โดยไม่ต้องตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง

สำหรับสถิติตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางออกนอกประเทศในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนรวม 1.4 ล้านคน อันดับ 1 คือตุรกี 577,900 คน รองลงมาคือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 223,400 คน ไซปรัส 110,600 คน อียิปต์ 88,900 คน และมัลดีฟส์ 73,000 คน ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ นักท่องเที่ยวรัสเซียจะเลือกไปตุรกีมากเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยอียิปต์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

“ที่ผ่านมาได้รับเสียงสะท้อนว่าเงื่อนไขการเข้ามาท่องเที่ยวไทยช่วงเปิดโครงการแซนด์บ็อกซ์ในพื้นที่นำร่อง ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อมากถึง 3 ครั้ง และต้องซื้อประกันสุขภาพครอบคลุมโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น จึงอยากให้ไทยทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทาง ททท.สำนักงานมอสโก ก็พยายามสื่อสารและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวว่าเงื่อนไขเหล่านี้มีความสำคัญมากในการดูแลนักท่องเที่ยวขณะพำนักในประเทศไทย”

ทั้งนี้ ททท.ได้ตั้งเป้าหมายปี 2565 ดึงนักท่องเที่ยวรัสเซียมาไทยประมาณ 5-7 แสนคน ซึ่งถือว่าฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2563 ส่วนปี 2562 ก่อนเจอวิกฤติโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวรัสเซียเข้าไทยมากถึง 1.4 ล้านคน สร้างรายได้ 102,895 ล้านบาท