‘สมุยพลัสโมเดล’พลาดเป้า! ปรับแผนเที่ยวไม่กักตัว
เมื่อ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุย ได้ประชุมเตรียมความพร้อมยกระดับโครงการ “สมุย พลัส โมเดล” โดยมีมติเบื้องต้นเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วในรูปแบบ “สมุย แซนด์บ็อกซ์” ไม่ต้องกักตัวเหมือนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์!
รัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เล่าว่า จะมีการนำเรื่องนี้เสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อพิจารณาเริ่มใช้โมเดลใหม่ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป หลังจากเปิดโครงการสมุย พลัส โมเดล เป็นระยะเวลาเกือบ 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.-7 ก.ย.ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 628 คน ถือว่า “พลาดเป้า!” จากเดิมที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว 1,000 คนต่อเดือน
ขณะที่การคัดกรองผู้ติดเชื้อสะสมพบแค่ 4 คน อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในสมุยเพิ่มขึ้นในช่วงหนึ่ง ประกอบกับประชากรในพื้นที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสมากกว่า 75% เกินเกณฑ์สร้างภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว
นอกจากนี้ทางศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุยได้ขอให้เพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยบนเกาะสมุยมากขึ้น ทางสมาคมฯจึงดึงโรงแรมที่ยังไม่เปิดให้บริการ มาปรับเป็น “ฮอสพิเทล” หรือหอผู้ป่วยติดโรคโควิด-19 เฉพาะกิจ รองรับ 500 เตียง ขณะนี้เปิดไปแล้ว 300 เตียง อยู่ระหว่างเตรียมเปิดเพิ่มอีก 200 เตียง
“ตั้งแต่เปิดโครงการสมุย พลัส โมเดล มาเกือบ 2 เดือน มีตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาน้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะถูกเปรียบเทียบกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ไม่ต้องถูกกักตัว ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกไปภูเก็ตมากกว่า โดยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-7 ก.ย.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 29,363 คน”
ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาพบยอดผู้ติดเชื้อทั้งประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวจากหลายชาติแจ้งยกเลิกการเดินทาง เช่น อังกฤษ เนื่องจากรัฐบาลอังกฤษปรับสถานะไทยเป็นประเทศสีแดง (Red List) ถ้ามาเที่ยวไทยและเดินทางกลับอังกฤษ ต้องถูกกักตัวในโรงแรมที่รัฐบาลกำหนด 10 วันและเสียค่าใช้จ่ายเองร่วมแสนบาท ทำให้โครงการสมุย พลัส โมเดล ยังไม่สามารถทำการตลาดได้อย่างเต็มที่ จึงได้ปรับโมเดลให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัว สามารถเดินทางได้อย่างอิสระแทน
“สมาคมฯมั่นใจว่าหลังจากปรับรูปแบบเป็นไม่กักตัวแล้ว จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าโครงการสมุย พลัส โมเดล มากขึ้นในไตรมาส 4 ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค.นี้ไม่น้อยกว่า 4,500 คน หรือเดือนละ 1,500 คน สร้างรายได้ตลอดไตรมาสที่ประมาณ 90-112 ล้านบาท”
พุ่งเป้าหมายไปที่ตลาดนักท่องเที่ยว “รัสเซีย” และ “อิสราเอล” ซึ่งสามารถนำเครื่องบินเช่าเหมาลำมาลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานีแล้วต่อเรือมาที่สมุย ไม่มีแวะระหว่างทาง โดยบริษัททัวร์รายใหญ่ของรัสเซีย เช่น “เปกัส ทัวริสติก” ติดต่อมาว่าจะนำนักท่องเที่ยวรัสเซียมาเที่ยวสมุยเดือนละ 1,000 คน
สำหรับร่างคู่มือมาตรฐานแนวทางปฏิบัติ (SOP) ของรูปแบบสมุยแซนด์บ็อกซ์ นักท่องเที่ยวจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในวันแรกที่เดินทางมาถึงเกาะสมุย และเข้าพักโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA Plus ตลอดการพำนัก เมื่อรอผลตรวจหาเชื้อเป็นเวลา 1 คืนแล้วผลออกมาเป็นลบ สามารถออกท่องเที่ยวได้อย่างอิสระใน 3 เกาะ ครอบคลุมทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎรธ์ธานี จากนั้นระหว่างวันที่ 6-7 นักท่องเที่ยวจะต้องรับการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 และระหว่างวันที่ 13-14 จะต้องรับการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 3 เมื่อพำนักครบ 14 วันและไม่พบเชื้อ สามารถออกไปเที่ยวพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทยได้ โดยต่างจากเดิมซึ่งใช้รูปแบบ “ซีลรูท” (Sealed Route) ให้นักท่องเที่ยวเดินทางในเส้นทางที่กำหนดเท่านั้น
นอกจากนี้ยังเตรียมปรับลดราคาแพ็คเกจตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR รวม 3 ครั้งด้วย ให้ถูกกว่า 8,000 บาท จากเดิมราคาอยู่ที่ 15,000 บาท เพื่อให้ใกล้เคียงกับแพ็คเกจของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งน่าจะช่วยลดค่าใช้จ่าย ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาโครงการสมุย พลัส โมเดล มากขึ้น