อสังหาฯอีอีซีปี64ยอดฝืดเหลือขาย 6.5หมื่นยูนิต
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯเผยภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยพื้นที่อีอีซีปี64 หน่วยเหลือขาย 65,790หน่วย คิดเป็นมูลค่า 2.1แสนล้านบาทคาดครึ่งหลังปี65 ยอดขายใหม่ดีขึ้นส่งผลให้สต็อกลดลง61,942 หน่วย
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ที่ยังมีการการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ระลอก 3 และ 4 ได้พบความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของอุปทานที่อยู่อาศัยหน่วยเปิดขายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เข้าสู่ตลาดเพียง 5,752 หน่วย ลดลง17.1% และมีมูลค่ารวม 14,227 ล้านบาท หรือ ลดลง35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อุปทานที่อยู่อาศัยทั้งหมดในอีอีซีพื้นมีจำนวนรวม 72,120หน่วยลดลง7.5% และมีมูลค่ารวม 240,722 ล้านบาทลดลง7.9 %
โดยจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีหน่วยขายได้ใหม่ 8,841 หน่วยลดลง25.9% และมีมูลค่า 26,198 ล้านบาทลดลง 31% ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขายอยู่ในตลาด 63,279 หน่วย และมีมูลค่ารวม 214,525 ล้านบาท ลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า4.1% และ 4.0 % ตามลำดับ
ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลฯ คาดการว่าปี 2564 จะมีโครงการเปิดขายใหม่จำนวน 14,479 หน่วย มูลค่า38,704 ล้านบาทมีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 19,328 หน่วย มูลค่า57,650 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายรวม 65,790หน่วย มูลค่า 215,682 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นในปี 2565 ทั้งในส่วนของการเปิดขายโครงการใหม่ และยอดขายใหม่ จะส่งผลให้ที่อยู่อาศัยเหลือขายในอีอีซี ลดลงมาอยู่ที่ 61,942 หน่วยในครึ่งหลังปี 2565
ตลาดที่อยู่อาศัยชลบุรี
สำหรับการเปิดขายใหม่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี พบว่ามีจำนวน 2,990 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน19.3 %มูลค่ารวม 6,812 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกัน52.2% ซึ่งเป็นโครงการอาคารชุด 1,170 หน่วย ลดลง39.6 % โครงการบ้านจัดสรร 1,820 หน่วย เพิ่มขึ้น 2.9 %มีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 5,588 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23% ประกอบด้วยโครงการอาคารชุด 2,165 หน่วย ลดลง23.1 %และโครงการบ้านจัดสรร 3,423 หน่วย ลดลง23.0% ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขาย 39,984 หน่วย ลดลง6.7% มูลค่ารวม 153,245 ล้านบาท ลดลง5.5%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ได้ประมาณการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จะเข้าสู่ตลาดในปี 2564 จำนวน7,419 หน่วย มูลค่ารวม 20,728 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรรประมาณ 3,980หน่วย มูลค่ารวม 11,264 ล้านบาท โครงการอาคารชุด3,439 หน่วย มูลค่ารวม 9,463 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2564 จะมีอัตราติดลบเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกลดลง30.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าลดลง42.8%
สำหรับแนวโน้มปี 2565 คาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในพื้นที่ชลบุรี จำนวน12,421 หน่วย มูลค่ารวม 43,703 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านจัดสรรประมาณ 5,775 หน่วย มูลค่ารวม16,013 ล้านบาท และ โครงการอาคารชุด 6,646 หน่วย มูลค่ารวม 27,690 ล้านบาท ส่วนของหน่วยขายได้ใหม่ในปี 2564 คาดว่าจะมีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน11,961 หน่วย มูลค่ารวม 38,936 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้านจัดสรร 7,291 หน่วย มูลค่ารวม 20,753 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 4,670 หน่วย มูลค่ารวม18,183 ล้านบาท คาดว่า ครึ่งหลังปี 2564 จะมีหน่วยขายได้ใหม่มากกว่าครึ่งปีแรก
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 13,773 หน่วยมูลค่ารวม 45,919 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรร 8,017 หน่วย มูลค่ารวม 21,954 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด5,756 หน่วย มูลค่ารวม 23,965 ล้านบาท
ตลาดที่อยู่อาศัยระยอง - ฉะเชิงเทรา
ช่วงครึ่งแรกปี 2564 "ไม่มี" การเปิดขายโครงการใหม่ประเภทโครงการอาคารชุด มีเพียงการเปิดขายโครงการบ้านจัดสรรเท่านั้น โดยในพื้นที่จังหวัดระยองมีโครงการบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่จำนวน 1,988 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า24.6 %มูลค่ารวม 5,378 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า9.6% โดยมีหน่วยเหลือขายรวม 17,108 หน่วย ลดลง4.2% เป็นโครงการบ้านจัดสรร 16,303 หน่วย ลดลง4.2% และโครงการอาคารชุด 805 หน่วย ลดลง5.1%มูลค่าหน่วยเหลือขาย 43,165 ล้านบาท ลดลง4.8% เป็นโครงการบ้านจัดสรร 41,150 ล้านบาท ลดลง5.0 %ขณะที่เป็นโครงการอาคารชุด 2,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2%
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าปี 2564 จะมีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 5,408 หน่วย มูลค่ารวม 13,921 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย17,674 หน่วย มูลค่ารวม 43,753 ล้านบาท นอกจากนี้คาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จำนวน 5,890 หน่วย มูลค่ารวม 13,865 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยเหลือขายจำนวน 15,618 หน่วย ลดลง11.6% มูลค่ารวม 38,124 ล้านบาท ลดลง12.9%
สำหรับพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ช่วงครึ่งแรกปี 2564 มีโครงการบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่เพียง 774 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า29.9% มูลค่ารวม 2,037 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า19.8% ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการบ้านจัดสรร โดยมีหน่วยเหลือขายรวม 6,187 หน่วย เพิ่มขึ้น16.8 %เป็นโครงการบ้านจัดสรร 6,036 หน่วย เพิ่มขึ้น19.2% ขณะที่เป็นโครงการอาคารชุด 151 หน่วย ลดลง34.6 %มีมูลค่าหน่วยเหลือขาย 18,114 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9% เป็นโครงการบ้านจัดสรร 17,984 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14.6% และโครงการอาคารชุด 130 ล้านบาท ลดลง38.2%
โดยศูนย์ข้อมูลฯ คาดการณ์ปี 2564 จะมีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,652 หน่วย มูลค่ารวม 4,170 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 5,714 หน่วย มูลค่ารวม 16,738 ล้านบาท และในปี 2565 จะมีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่1,640 หน่วย มูลค่ารวม 4,177 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยเหลือขายจำนวน 5,554 หน่วย ลดลง2.8% มูลค่ารวม 15,699 ล้านบาท ลดลง6.2%