‘หุ้นไทย’ ปิดตลาดร่วงแรง 22.59 จุด กังวัลปัจจัยลบต่างประเทศ
หุ้นไทย ปิดตลาดวันนี้ร่วงแรง (20 ก.ย.) 22.59 จุด มาอยู่ที่ 1,603.06 จุด หรือ -1.39% หุ้นใหญ่ถูกเทขายหนัก หลังปัจจัยต่างประเทศรุมเร้า ทั้ง นักลงทุนกังวลปัญหาหนี้เอเวอร์แกรนด์ เฟดมีสัญญาณปรับลด QE และการปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ 70% ต่อจีดีพี
ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) พบว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ (20 ก.ย.) ร่วง 22.59 จุด มาอยู่ที่ 1,603.06 จุด หรือ 1.39% โดยระหว่างวันดัชนีฯ ปรับตัวสูงสุด 1,620.72 จุด ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,601.16 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) 8,5012.66 ล้านบาท
บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า การปรับตัวลงของตลาดวันนี้ มีปัจจัยลบหลายอย่างที่กดดันตลาดมาหลายวัน อาทิ การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ในสัปดาห์นี้ที่มีสัญญาณปรับลด QE , ปัญหาเอเวอร์แกรนด์
และในวันนี้ช่วงบ่ายคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ได้มีมติเห็นชอบให้มีการทบทวนกรอบสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากเดิมที่กำหนดไว้ ต้องไม่เกิน 60% เป็นต้องไม่เกิน 70% ทำให้มีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร และ กลุ่มหุ้น Big Cap ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศลงทุน ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่า
บริษัท หลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากความกังวลปัญหาหนี้ของ บริษัท Evergrande ที่กำลังกดดันตลาดหุ้นเอเชียอย่างหนัก แม้ผลกระทบโดยตรงกับตลาดหุ้นไทยจะต่ำ แต่ผลทางจิตวิทยายังคงครอบงำปัญหาจะคลายตัวหรือไม่ยังต้องใช้เวลาให้ตลาดย่อยข่าว
ทั้งนี้ผลดังกล่าวน่าจะเริ่มแพร่กระจายไปยังตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปในคืนนี้และสัปดาห์นี้ โดยดูจากดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าวันนี้เปิดลบพอสมควร ประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญ คือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งคาดกันว่าคงยังไม่มีการประกาศลด QE ปัจจัยที่จะกดดันตลาดในช่วงสั้นๆ คือ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงหรือภูมิภาค กลุ่มที่ถือว่าปลอดภัยในช่วงนี้ คือ กลุ่มส่งออก และท่องเที่ยว