กสิกรไทย ประกาศเจตนารมณ์ ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน-รับผิดชอบต่อสังคม
ธนาคารกสิกรไทย ร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์ Statement of Commitment for Sustainable Thailand 2021 ในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ บนหลักการลงทุนและธนาคารแห่งความยั่งยืน (Sustainable Investment and Banking) ที่ตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้แทนธนาคาร ร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์ Statement of Commitment for Sustainable Thailand 2021 เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยดำเนินธุรกิจมาเป็นเวลากว่า 7 ทศวรรษ โดยให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งคำนึงถึงประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี ระบบการควบคุมภายใน และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นธรรม
ด้วยธนาคารตระหนักดีว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนมีความสำคัญต่อสถาบันการเงิน จึงเห็นว่าสถาบันการเงินต้องมีใบอนุญาต 2 ใบในการประกอบธุรกิจ คือ ใบอนุญาตการธนาคาร (Banking License) ซึ่งก็คือใบอนุญาตจากทางการเพื่อสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามกฎหมาย และใบอนุญาตทางสังคม (Social License) ซึ่งหมายถึงการได้รับการยอมรับจากสังคมในการดำเนินธุรกิจ และดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ธนาคารจึงต้องสร้างผลกำไรที่ยั่งยืน แม้บางครั้งอาจต้องเผชิญความยากลำบากในระยะสั้นเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว
ถ้าสังคมอยู่ไม่ได้ ธนาคารก็อยู่ไม่ได้ โดยเรื่องดังกล่าวไม่ใช่แค่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมแต่รวมถึงการให้การสนับสนุนแก่ประชาชนและชุมชนด้วยการสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงินและการให้การช่วยเหลือทางการเงินในช่วงเวลาการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถรับมือกับวิกฤตครั้งนี้และมีความเข้มแข็งที่จะดำเนินธุรกิจในช่วงหลังโควิด-19 ได้
นอกจากวิกฤตโควิด-19 แล้ว วาระเร่งด่วนสำคัญของโลกคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกรวน ซึ่งต้องการการจัดการอย่างทันท่วงทีและในวงกว้างเพื่อบรรเทาความรุนแรงของผลกระทบ ทุกฝ่ายรวมทั้งธนาคารกสิกรไทยต่างเชื่อว่าความพยายามในระดับนานาชาติที่สอดคล้องกับความตกลงปารีสเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องการการประสานพลังเพื่อลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง
การดำเนินการดังกล่าวต้องได้รับการสนับสนุนจากทางการ การสนับสนุนทางการเงิน และมาตรฐานที่เหมือนกันในแต่ละอุตสาหกรรมและตลอดห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจ ขณะนี้บางประเทศและบางองค์กรได้ตั้งเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน 20-30 ปีข้างหน้า ซึ่งในอนาคตก็จะมีอีกหลายประเทศและหลายหน่วยงานทั่วโลกที่จะเข้าร่วมปณิธานนี้ต่อไป
ในแวดวงธุรกิจการธนาคารไทย ได้รับการสนับสนุนจากทางการในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยในการกำหนดแนวทางการดำเนินกิจการธนาคารอย่างยั่งยืน โดยการให้สินเชื่อด้วยความรับผิดชอบ และการพัฒนานิยามการเงินสีเขียว (Green Taxonomy) หรือการจำแนกหมวดหมู่สำหรับกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยกระดับการเปิดเผยข้อมูลในแบบ 56-1 One Report ตามเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาธิบาล หรือ ESG
ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อม (Chief Environmental Officer) ของธนาคารกสิกรไทย มีความมุ่งหวังให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้พิทักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างสังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ โดยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารและแนวโน้มด้านความยั่งยืนของโลก นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยร่วมผลักดันให้คนไทยพิทักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งต่อโลกใบนี้แก่เยาวชนให้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างรับผิดชอบ สมดุล และยั่งยืน
ธนาคารกสิกรไทยได้เข้าร่วมลงนามรับ “หลักการธนาคารที่รับผิดชอบ” ของสำนักงานโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยข้อริเริ่มด้านการเงิน ซึ่งเป็นกรอบการดำเนินธุรกิจธนาคารอย่างยั่งยืนของโลก ซึ่งครอบคลุมถึงการปฏิบัติงานด้านสิ่งแวดล้อมในยุทธศาสตร์ทางธุรกิจด้วย นอกจากนี้ธนาคารยังได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (Task Force on Climate-related Financial Disclosures หรือ TCFD) ทั้งในด้านความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงิน ธนาคารส่งเสริมให้ลูกค้าดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมากขึ้นรวมทั้งการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านของภาคธุรกิจในขณะที่ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นสังคมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยธนาคารให้การสนับสนุนแก่ธุรกิจที่ยึดถือในหลักการเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (BCG) ตัวอย่างเช่น เราใช้เกณฑ์ ESG ตามความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG Screening Tools) เป็นเครื่องมือในกระบวนการพิจารณาเครดิต
ธนาคารกสิกรไทยได้จัดทำระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อให้การปฏิบัติงานด้านสิ่งแวดล้อมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น เราได้รับการรับรองการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับศูนย์เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการก่อตั้งเครือข่าย Carbon Markets Clubหรือตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต รวมทั้งเป็นสมาชิกเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) ด้วย
ถึงแม้ว่าธนาคารจะดำเนินงานอย่างจริงจังในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน แต่ยังมีภารกิจที่จะทำได้อีกมาก ธนาคารกำหนดนโยบายเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม มีความตั้งใจจริงที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริงประสบความสำเร็จแล้วในบางเป้าหมาย ในขณะที่เราก็ยังต้องเร่งดำเนินงานให้เร็วขึ้นด้วย
สุดท้ายนี้ นอกเหนือจาก “ทำสิ่งดีและทำอย่างดี” แล้ว เรายังต้อง “ทำมากขึ้น” อีกด้วย ไม่ใช่เพียงแต่ธนาคารกสิกรไทยเท่านั้น แต่เป็นทุกฝ่ายในระบบนิเวศนี้ซึ่งรวมถึงภาคธุรกิจ หน่วยงานทางการและภาคประชาชนที่จะต้องร่วมมือกันและมีส่วนร่วมมากขึ้นเพื่อสร้างระบบนิเวศที่เข้มแข็งและยั่งยืน