วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (29 ก.ย. 64)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดกังวลวิกฤตการณ์พลังงาน และการปิดโรงงานในจีนจากการขาดแคลนถ่านหินและการควบคุมการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังตลาดกังวลวิกฤตการณ์พลังงาน และการปิดโรงงานในจีน เนื่องจากการขาดแคลนถ่านหินสำหรับอุตสาหกรรม ท่ามกลางการควบคุมการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันได้
+ กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบ หรือโอเปคพลัส คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวกลับไปสูงกว่าระดับก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปี 2566 ที่ระดับ 101.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ท่ามกลางปัจจุบันที่กลุ่มโอเปคพลัสยังคงประสบปัญหาในการเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความฟื้นตัวในการใช้น้ำมัน เนื่องจากการปิดซ่อมบำรุงและการลงทุนที่จำกัดในช่วงที่ผ่านมา
+ การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ยังคงจำกัด จากผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดาและนิโคลัสที่เคลื่อนตัวผ่านบริเวณอ่าวเม็กซิโกตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐาน ท่อขนส่งน้ำมันดิบและกระบวนการผลิตได้รับความเสียหาย และจำเป็นต้องหยุดพักการผลิต
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 0.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 222.3 ล้านบาร์เรล ตามการดำเนินการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 0.8 สู่ระดับร้อยละ 88.3
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากอินเดียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 15 แตะระดับ 1.6 ล้านตัน ท่ามกลางอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นในเกาหลีใต้