“กสิกรไทย” ชู7กลยุทธ์ลงทุน ลดความผันผวน-เพิ่มผลตอบแทนพอร์ต
เคแบงก์ไพรเวทแบงกิ้ง แนะ 7 กลยุทธ์การลงทุน ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน ชู หุ้น Cyclical – Infrastructure และ Private Asset หวังเพิ่มผลตอบแทนให้พอร์ตลงทุน
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยในงานสัมนาออนไลน์ ร่วมกับ Lombard Odier พันธมิตรทางธุรกิจ ไพรเวทแบงก์ระดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้หัวข้อ “BACK TO GROWTH AS WE KNOW IT?” ว่า ท่ามกลางสภาวะตลาดปัจจุบันที่แม้แนวโน้มเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังการเปิดเมือง
ธนาคารยังคงเชื่อมั่นว่าการลงทุนระยะยาว ผ่านการกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนในระยะสั้น
อีกทั้งยังคงปรับกลยุทธ์และคำแนะนำการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลงทุนตาม 7 กลยุทธ์ เพื่อให้พอร์ตการลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
โดยเน้นการลงทุนหุ้นในธีม Policy Driven for Better World ที่จะได้รับอานิสงส์จากแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเทรนด์ธุรกิจรักษ์โลก
รวมถึงธีม Laggard and Cyclical Upturns ที่เน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมหรือบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเมืองและภูมิภาคที่ราคาหุ้นยังไม่ปรับขึ้นมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น เช่น ญี่ปุ่น
ด้านดร.ตรีพล ภูมิวสนะ Managing Director - Private Banking Business Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวขยายความ 7 กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำ ได้แก่
1. คงมุมมองบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นที่มีราคาถูก (Value) และหุ้นกลุ่มวัฏจักร (Cyclical)ในช่วงแนวโน้มบอนด์ยีลด์ขาขึ้น จะช่วยหนุนหุ้น Cyclical และ หุ้น Value ให้ไปได้
2. หุ้นยุโรปจะให้ผลตอบแทนที่ดี และยั่งยืน จาก Sentiment หลังการเลือกตั้งในเยอรมนี ที่จะหนุนหุ้นยุโรปและค่าเงินยูโร รวมถึงแผนการปฏิรูปสีเขียวของยุโรป ที่จะสร้างโอกาสการลงทุนมากมาย
3. ยังคงระมัดระวังในพันธบัตรรัฐบาล Lombard Odier คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะเริ่มลดสินทรัพย์ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จนถึงมิ.ย. ทำให้บบอนด์ยีลด์สหรัฐปรับขึ้นสู่ 2.25% ในเดือนมิ.ย.ปีหน้า จากปัจจุบันที่ 1.5%
4. การลงทุนในจีนจะให้ผลตอบแทนที่โดดเด่น จากประเด็นเรื่อง Evergrande
5. มองสินทรัพย์นอกตลาดในการเพิ่มเติมผลตอบแทนให้สูงขึ้น แม้ว่าจะต้องแลกกับสภาพคล่องที่ต่ำ โดย หุ้นนอกตลาดสามารถให้ผลตอบแทนมากกว่าหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ถึง 2.7%
6. การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานได้ประโยชน์จากเงินทุนที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง และนโยบายภาครัฐที่มีแผนลงทุนกว่า2ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
7. การลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเป็นผลดีในระยะยาว
ด้านนางสาวศิริพร สุวรรณการ Managing Director - Private Banking Financial Advisory Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า วัฏจักรของเศรษฐกิจโลกไม่ได้อยู่ในภาวะอันตราย เชื่อว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่วัฏจักรที่เติบโตในอัตราปกติ หลังจากที่ฟื้นตัวจากวิกฤตมาแล้ว
โดยมี 7 เหตุผลหลักสนับสนุน คือ
1. เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับเข้าสู่แนวโน้มก่อนโควิด อัตราการเติบโตกลับสู่ระดับปกติ วัฎจักรกลับสู่สภาวะที่มั่นคงขึ้น
2. จุดสูงสุดของโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้ผ่านพ้นไปแล้ว
3. พื้นฐานภาคธุรกิจแข็งแกร่ง กำไรสูงกว่าคาด บริษัทมีความสามารถในการลงทุน จ้างงาน ในขณะที่มีความต้องการใช้จ่ายรออยู่
4. นโยบายการคลังขนานใหญ่ ยังสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
5. ความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อผ่อนคลายลง
6. การปรับลดการสนับสนุน จากนโยบายการเงินจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และมีความยืดหยุ่น
7. จีนมีศักยภาพด้านการเงินและการคลังเพียงพอในการใช้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะตกต่ำอย่างรุนแรง