นายกฯ สั่งกลางวงประชุมครม. ดูแลน้ำมันไม่ให้กระทบประชาชน
นายกฯ สั่งกลางวงประชุมครม. ดูแลน้ำมันไม่ให้กระทบประชาชน "สุพัฒนพงษ์" รับลูก เดินหน้าคุมราคา เชื่อเป็นเพียงสถานการณ์ระยะสั้น ย้ำเงินกองทุนน้ำมันฯ ที่เหลือกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ยังคงเพียงพอ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในชุมชนวัดสำโรง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวน 900 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนเบื้องต้นว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงต่อแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงสั่งการให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไปว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไร ซึ่งกระทรวงพลังงานพร้อมออกมาตรการดูแลราคาน้ำมันอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าทิศทางราคาเชื้อเพลิงปรับตัวอยู่ในระดับสูงเพียงระยะสั้น เนื่องจากเป็นปัจจัยตามฤดูกาล ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกประมาณ 3-4 เดือน และน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยกระทรวงพลังงานยืนยันยังมีเครื่องมือในการดูแลราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ ไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชน ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องนำเงินมาดูแลเพิ่มเติมนอกเหนือจากเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิง ยังเปิดช่องให้กองทุนฯ สามารถกู้สถาบันการเงินหรือกระทรวงการคลังมาดูแลได้
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังรายงานข้อมูลราคาน้ำมันให้ ครม.ทราบ และให้แนวทางว่ามองเรื่องนี้เป็นความท้าทายใหม่ที่เกิดขึ้นหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เพราะหลายประเทศได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น นายกฯ จึงกำชับให้ ครม. เตรียมความพร้อมและมาตรการรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ช่วยสร้างความมั่นใจต่อการลงทุน การบริโภค ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ความต้องการใช้น้ำมันก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
"กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน ส่วนการดูแลเชื้อเพลิงชนิดอื่น เช่น ราคาน้ำมันเบนซิน ก็ยังอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ต่อไป ส่วนค่าน้ำค่าไฟ รัฐบาลกำลังศึกษาอยู่ ช่วยเหลือแน่นอน ขอให้ประชาชนใจเย็นๆ" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว