อาจผันผวนจากการลด GDP ของ IMF แต่ไม่กระทบจิตวิทยาเก็งกำไร

อาจผันผวนจากการลด GDP ของ IMF แต่ไม่กระทบจิตวิทยาเก็งกำไร

ติดตามการปรับประมาณการ GDP โลก IMF มีกำหนดการเผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook: WEO) ฉบับใหม่ในวันที่ 12 ต.ค.64

ซึ่งเราประเมินว่าด้วยสถานการณ์ระบาดของสายโควิดพันธ์เดลต้าในช่วงไตรมาส 3/64 ที่ผ่านมา จะทำให้ IMF มีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของโลกปี 64-65 ลงจาก 6.0% และ 4.9% (รายงานฉบับเม.ย.64) ทั้งนี้แม้ในรายงานฉบับ ก.ค.64 แม้ IMF จะคงคาดการณ์แต่ก็ได้กล่าวถึงโมเมนตัมทางเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา (Emerging market & developing economies) ที่ชะลอลง สวนทางกับประเทศพัฒนาแล้ว (Advanced economy) ที่ปรับดีขึ้น ดังนั้นการปรับลดประมาณการที่น่าจะเกิดขึ้นในรายงานฉบับนี้ คาดว่าน้ำหนักการปรับลดลงโดยหลักจะมาจากตลาดเกิดใหม่และกำลังพัฒนา 

เงินบาทอ่อน+มาตรการส่งเสริมการลงทุนเป็นบวกต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงประมาณ 13% จากต้นปี (จาก 30 เป็น 34 บาท/เหรียญสหรัฐฯ) ประกอบกับการที่รัฐบาลเตรียมออกมาตรการส่งเสริมการลงทุน และการมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิ การลดภาษีนิติบุคคล, การแก้กฎหมายถือครองอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ฯลฯ จะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภคโดยเฉพาะในภาคตะวันออก ได้แก่ AMATA, WHA, ROJNA, WHAUP, EASTW เป็นต้น
 

ธีมการลงทุนระยะสั้น 1) กลุ่มโภคภัณฑ์ป้องกันเงินเฟ้อ PTTEP, PTTGC, IVL, TOP, BANPU 2) การเพิ่มเพดานหนี้เป็น 70% และแผนกู้เงินเพิ่ม จะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรขยับขึ้น ซึ่งบวกกับกลุ่มธนาคารและประกัน อาทิ BBL, KBANK, SCB, TIPH, THRE, BLA 3) หุ้นธีมเปิดเมืองยังน่าสนใจแม้อาจย่อจากมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการผ่อนคลายกทม.ที่น่าจะล่าช้าไปจาก 15 ต.ค. CPN, CRC, MINT, CENTEL, ERW, BA 4) เรามองทยอยสะสม สื่อสาร สาธารณูปโภค ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART, GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW 5) เก็งกำไรทางเทคนิค WIIK, FORTH, FSMART, TNP, TWPC, NER, HFT, BEC, CPI, TKS, SKN, MAJOR, CPN, ERW
 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวไม่หลุด 1,627 ยังเป็นการเดินหน้าขึ้นทดสอบ 1,660-1,680 จุด โดยเป็นการสลับขึ้นลงของกลุ่มเปิดเมือง, หุ้นได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ (อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น) และกลุ่มโภคภัณฑ์ //หุ้นแนะนำ: KEX*, TIPH*, BEM*, UEC*
แนวรับ: 1,627/ แนวต้าน : 1,650-1,660 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

ประเด็นการลงทุน

OECD บรรลุดีลกำหนดภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกที่ระดับ 15% - องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD บรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่ในการกำหนดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกที่ระดับ 15% ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากประเทศและเขตปกครองจำนวน 136 แห่ง ที่มีมูลค่าเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ของ GDP ทั่วโลก โดยข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในปี 2566 และจะไม่มีการปรับเพิ่มอัตราภาษีขึ้นจากระดับ 15% ในภายหลัง รวมทั้งจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็ก

สินค้าเกษตร - ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (8 ต.ค.) สัญญาธัญพืชปิดลบทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลีร่วงลงเกือบ 1% เนื่องจากกลุ่มกองทุนเทขายก่อนที่กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) จะเปิดเผยรายงานผลผลิตในวันอังคารนี้

ท่องเที่ยว -นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ชูประเด็น Phuket Sandbox, What Next: PHUKET 121 ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นอีก 30% ภายใน 1 ธันวาคมนี้ หรือประมาณ 10,000 คนต่อวัน 

กลุ่มการแพทย์ – มีกระแสเรียกร้องให้ทางกลุ่มร.พ.เอกชน คืนเงินค่าจองวัคซีนโมเดอร์นาหลังวัคซีนมีความล่าช้ากว่ากำหนดการที่เคยมีการแจ้งไว้

 

 

 

 


 

COM7 - มั่นใจผลงานไตรมาส 4/64 ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ รับอานิสงส์เปิดตัวไอโฟน 13 เร็วขึ้นกว่าปีก่อน ยอดจองพุ่ง บันทึกรายได้เต็มไตรมาส เล็งจับมือ ILM เข้าบริหารพื้นที่เช่าในสาขา ILM เดือน พ.ย. นี้ ดันรายได้โตตามเป้าที่ 15-20%

KEX – ส่งสัญญาณกำไรครึ่งปีหลังโตเด่นรับซีซั่นช้อปปลายปี เผยไตรมาส 3-4/64 ปริมาณการขนส่งพุ่งสองหลัก รับช้อปปิ้งออนไลน์โตเด่น พร้อมจับตาประกาศดีลใหม่กับพันธมิตรสัปดาห์นี้

ประเด็นติดตาม: -  12 ต.ค.: IMF ออกรายงานเศรษฐกิจ โลก ฉบับใหม่ /13 ต.ค.: OPEC Monthly report/ 17 ต.ค. วันสุดท้ายทูลเกล้ารัฐธรมมนูญใหม่

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)