เปิดประเทศ ฟื้นธุรกิจ โฆษณา-อีเวนท์ ใช้จ่ายสะพัด!
ธุรกิจขานรับเปิดประเทศ สื่อโฆษณา ปรับแผนลอนซ์แคมเปญการตลาดให้เร็วสุด สมาคมมีเดียเอเยนซี่ฯ คาดเงินสะพัด 101,738 ล้านบาท เอ็มไอ ชี้เลิกเคอร์ฟิวส์ ปลุกเชื่อมั่นใช้จ่ายในประเทศธุรกิจอีเวนท์ หวังปลายปีลูกค้าใช้เงินคึกคักสะพัด 2,000 ล้านบาท
นายธราภุช จารุวัฒนะ นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT)และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลประกาศนโยบายเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน อุตสาหกรรมสื่อโฆษณามีสัญญาณบวกทันที เมื่อลูกค้าแบรนด์ต่างๆ ปรับแผนเลื่อนการจัดแคมเปญการตลาดให้เร็วที่สุด เพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเฉพาะท็อป 10 หมวดสินค้าที่ใช้จ่ายสูงสุด เช่น อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าเครื่องใช้ภายในครัวเรือน ยานยนต์ การสื่อสารและโทรคมนาคม ฯ ส่วนการใช้สื่อจะผสมผสานแบบครบวงจร เพื่อครอบคลุมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นทีวี สื่่ออินตอร์เน็ต สื่อโฆษณานอกบ้าน เป็นต้น
ทั้งนี้ แนวโน้มดังกล่าว จึงคาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาปี 2564 มีเงินสะพัด 101,738 ล้านบาท หดตัวราว 2.7% หากจะลองสถานการณ์ดีสุดอาจขยายตัวโตกว่าปีก่อนที่เงินสะพัด 104,509 ล้านบาท เนื่องจากสื่อทีวีมีสัญญาณดีต่อเนื่อง รวมถึงสื่ออินเตอร์เน็ตขยายตัวราว 11%
“สินค้าหลายหมวดปรับแผนขานรับการเปิดประเทศ จะกลับมาทำตลาดให้เร็วที่สุด ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าไอที เทคโนโลยี จัดกิจกรรมได้ทันที ถือเป็นการฟื้นตัวรับไฮซีซั่นอย่างมาก ทำให้อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาติดลบน้อยลง เทียบปีก่อนมูลค่าอาจต่างกันไม่ถึง 3,000 ล้านบาท”
นอกจากนี้ วันที่ 1 ธันวาคม จะปลดล็อกให้ธุรกิจกลางคืน ผับ บาร์ ฯ กลับมาดำเนินกิจการได้ จะยิ่งเพิ่มความคึกคักให้ตลาด อย่างไรก็ตาม กรณีที่คาดไม่ถึง หากโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ คาดว่าจะไม่กระทบอุตสาหกรรมสื่อโฆษณามากนัก เพราะผู้ประกอบการคุ้นชิน และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลา
ภวัต เรืองเดชวรชัย - ธราภุช จารุวัฒนะ
++เลิกเคอร์ฟิวส์ ฟื้นบริโภคในประเทศ
นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด กลาวว่า ก่อนรัฐประกาศนโยบายเปิดประเทศ ลูกค้าแบรนด์ต่างๆกลับมาใช้จ่ายเงินโฆษณา ทำแคมเปญการตลาดตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่าน เพื่อกระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย แต่การเปิดประเทศจะหนุนให้เดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงไข่แดงของการใช้งบประมาณสูงสุด ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจสื่อโฆษณาปี 2564 หดตัว 2.8% จากเดิมคาดหดตัว 4-5%
“ลูกค้าที่ยังมีกระสุนทุนทุกหมวดหมู่จะกลับมาใช้จ่ายเงินโฆษณารับไฮซีซั่น เช่น ยานยนต์ เพื่อรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป แม้จะใช้เงินลดลง แต่เม็ดเงินรวมยังมีมูลค่าสูง สินค้าหน้าหนาว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ธุรกิจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่หรือนิวนอร์มัล อย่างอีคอมเมิร์ซ เพราะเป็นโค้งสุดท้ายที่จะทำเงิน จึงต้องมองข้ามโควิด-19 หาทางอยู่กับโรคให้ได้”
นอกจากการเปิดประเทศ สัญญาณบวกสุดคือการยกเลิกเคอร์ฟิวส์ ทำให้ธุรกิจต่างๆ ขยายเวลาในการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สถานบันเทิง ผับ บาร์ฯ ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภาพรวมจะช่วยปลุกความเชื่อมั่น กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้ฟื้นตัวกลับมาได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดประเทศสิ่งที่รัฐต้องให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่ชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้ทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพราะรัฐมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ เพื่อบริหารจัดการโรคระบาดดีอยู่แล้ว สิ่งที่รัฐทำไม่ผิด แต่ที่เป็นจุดอ่อนคือการสื่อสารไม่ชัดเจน จนกระทบความเชื่อมั่น
++อีเวนท์ ลุ้นปลดล็อกเงื่อนไขจัดงาน
นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ นายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน(EMA) และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด กล่าวว่า การเปิดประเทศไม่ส่งผลบวกต่อธุรกิจอีเวนท์นัก เนื่องจากยังมีเงื่อนไขการห้ามรวมตัวของคนล็อกธุรกิจอยู่ แต่ล่าสุดสมาคมได้หารือกับรัฐ เพื่อขอผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆ เช่น ให้รวมตัวกันได้ 500 คน เพื่อให้อีเวนท์จัดได้
นายกสมาคมอีเอ็มเอ หารือรัฐปลดล็อกเงื่อนไขจัดอีเวนท์
นอกจากนี้ การอนุญาตให้อีเวนท์จัดได้ ระยะเวลา 2 เดือนไม่เพียงพอต่อการจัดกิจกรรม ปกติงานมูลค่า 50 ล้านถึงหลักหลายร้อยล้านใช้เวลาเตรียมการราว 3 เดือน หรืองานใหญ่มอเตอร์ เอ็กซ์โป จะเตรียมตัวเป็นปีเพื่อนำโมเดลรถรุ่นใหม่เข้ามา
“การเปิดให้ธุรกิจกลับมาจัดกิจกรรมได้ย่อมดีกว่า และหากรัฐปลดล็อกเงื่อนไขการรวมตัวคน 500 คนได้ การเปิดเมืองจะทำให้อีเวนท์มีเงินสะพัดราว 2,000 ล้านบาท เฉพาะงานมอเตอร์เอ็กซ์โป สะพัดหลายร้อนล้าน หากมีกิจกรรมเคาท์ดาวน์ปีใหม่ จะเสริมเม็ดเงินทำให้ทั้งปีอีเวนท์ฟื้นตัว 20-30% จาก 10 เดือนที่ผ่านมาจัดกิจกรรมไม่ได้เลย”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กังวลคือเมื่อผู้ประกอบการลงทุนเตรียมจัดอีเวนท์แล้ว หากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด และสั่งยกเลิก เหมือนงานเคาท์ดาวน์ปีที่แล้ว จะกระทบการลงทุนอย่างมาก
นายอุปถัมภ์ ยังขอให้รัฐบาลผลักดันให้หน่วยงานต่างๆของรัฐจัดงานประชุม สัมมนา รวมถึงจัดอีเวนท์มากขึ้น เพื่อผันเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ช่วยให้อีเวนท์ฟื้นตัวต่อลมหายใจผู้ประกอบการ
++จี้รัฐปรับมายด์เซ็ทกลับสู่นิวนอร์มอล
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อีเวนท์ไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ เนื่องจากมีเวลาน้อยมากเพื่อเตรียมจัดงาน นอกจากนี้ ยังมีเงื่อนไขจำนวนคนรวมตัว งานมีเครื่องดื่มแอลกออฮอล์ได้หรือไม่ เป็นตัวแปรด้วย
เกรียงไกร กาญจนะโภคิน
ขณะเดียวกันเวลาเพียง 2 เดือน หากจัดอีเวนท์ ผู้สนับสนุนหรือสปอนเซอร์ยังไม่สนใจนัก แต่ผู้ประกอบการยังเดินหน้าโปรโมท และจัดงาน หากจัดไม่ได้พร้อมคืนค่าตั๋วให้กับลูกค้า
“การเปิดเมืองกับการจัดอีเวนท์คนละประเด็น เพราะเปิดประเทศ อาจยังจัดอีเวนท์ไม่ได้ แต่อินเด็กซ์ ยังเดินหน้าจัดอีเวนท์โครงการตนเอง 2 งานช่วงปลายปี คือ Forest of illumination งานแสงสีที่ คีรี มายา จังหวัดนครราชสีมา และอีเวนท์ตอบไลฟ์สไตล์ด้านกีฬาที่เมืองโบราณ สมุทราปราการ เพื่อรับการเปิดเมือง”
ปัจจุบันไทยมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนมากขึ้น เดือนพฤศจิกายนจะครอบคลุม 70% รัฐจึงควรปรับมายด์เซ็ทในการกลับไปใช้ชีวิต ทำธุรกิจปกติหรือ Back to Normal ไม่ใช่วิถีชีวิตรูปแบบใหม่เหมือนตอนยังไม่ฉีดวัคซีน