“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” รับโอนเงินคืน 5% กดเป็นเงินสดได้ วันนี้ (15 ต.ค.)
กรมบัญชีกลาง โอนเงินคืนเข้า "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือ "บัตรคนจน" 5% วันนี้ (15 ต.ค.) ผู้ถือบัตรจำนวน 13.5 ล้านคน ให้ผู้ที่เติมเงิน-ใช้บัตรรูดซื้อสินค้า สามารถกดเป็นเงินสดได้
ติดตามความคืบหน้า "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือ "บัตรคนจน" เดือนตุลาคม 2564 เป็นเดือนแรกที่ กรมบัญชีกลาง ภายใต้หน่วยงานของ กระทรวงการคลัง ขยายวงเงิน ค่าน้ำ ค่าไฟ และ เบี้ยความพิการ หลังจากก่อนหน้านี้ ครม. อนุมัติ เห็นชอบในหลักการและขยายมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา อนุมัติงบกลาง ปี 64 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 27,005.66 ล้านบาท
โดยในเดือนตุลาคม 2564 กรมบัญชีกลาง พร้อมเติมเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.5 ล้านคน ประจำเดือนตุลาคม 2564 และ เงินช่วยเหลือแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 เป็นกรณีพิเศษ
โดยในวันที่ 15 ตุลาคม 2564
สำหรับผู้ถือบัตรที่เติมเงินเข้าบัตร แล้วใช้เงินจากบัตรรูดซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าเอกชนอื่น ๆ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยรัฐจะคืนภาษี VAT 5% ให้ผ่าน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถนำบัตรคนจนไปกดเป็นเงินสดออกมาใช้ หรือรูดซื้อของตามร้านธงฟ้าฯ และร้านค้าอื่น ๆ ที่ร่วมโครงการได้ผู้ที่เติมเงินเข้าบัตรคนจน แล้วใช้จ่ายเงินซื้อของจะได้รับเงินภาษี VAT 5% คืนเข้าบัตรตามยอดการใช้จ่าย เช่น
- จ่ายผ่านบัตรฯ 100 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ จำนวน 5 บาท
- จ่ายผ่านบัตรฯ 500 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ จำนวน 25 บาท
- จ่ายผ่านบัตรฯ 1,000 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ จำนวน 50 บาท
วันที่ 18 ตุลาคม 2564
เดือนตุลาคม 2564 เป็นเดือนแรกที่ขยายสิทธิวงเงินค่าน้ำ และ ค่าไฟฟ้า ดังนี้
- ค่าไฟฟ้า ประมาณ 1.9 ล้านครัวเรือน (1 ครัวเรือนใช้ได้เพียง 1 สิทธิ เท่านั้น)
- กรณีค่าไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- กรณีใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรื่อนต่อเดือน
- กรณีที่ใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรฯ เป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
- ค่าน้ำประปา ประมาณ 186,625 ครัวเรือน (1 ครัวเรือนใช้ได้เพียง 1 สิทธิเท่านั้น)
สนับสนุนค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
- กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง
- กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท โดยที่ผู้มีบัตรฯ จะเป็นผู้รับภาระในการชำระค่าน้ำประปาทั้งหมด
วันที่ 22 ตุลาคม 2564
ผู้ถือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" จะได้รับเงิน 200 บาท ถึงเดือนกันยายน 2565 เมื่อรวมกับ "เบี้ยความพิการ" ที่ได้รับจำนวน 800 บาท/คน/เดือน รวมเป็นจำนวน 1,000 บาท/คน/เดือน
เงินจำนวนนี้สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ โดยกรมบัญชีกลางได้กำหนดวันจ่ายเบี้ยความพิการเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนต่อ ๆ ไป ประมาณวันที่ 22 ของเดือน
ที่มา : กรมบัญชีกลาง