เทรนด์การตลาด “อินฟลูเอนเซอร์” สูงวัย อาจมาแรงต่อเนื่องในปี 2022
ปรากฏการณ์ “อินฟลูเอนเซอร์” หญิงสูงวัย ที่มาแรงกว่าอินฟลูฯ รุ่นหนุ่มสาว และได้ทำลายกฎเดิมๆ ของ Beauty Standard ไปหมดสิ้น เพราะยุคนี้ความงามไม่ได้จำกัดที่คำว่า “อายุ” อีกต่อไป
ตลอดปี 2021 ที่ผ่านมา ในแวดวงธุรกิจด้านความงามและแฟชั่นคงรู้กันดีว่า เทรนด์การตลาดที่มาแรงของปีนี้คงหนีไม่พ้นเทรนด์ "อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง" โดยเฉพาะ "อินฟลูเอนเซอร์" สูงวัยรุ่นคุณป้า 50+ ไปจนถึงรุ่นคุณยาย 70+ กลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม มียอดติดตามในโซเชียลมีเดียหลักแสนหลักล้านฟอลโลเวอร์
กระแสดังกล่าวส่งผลให้อุตสาหกรรมความงามที่เคยให้ค่ากับอุดมคติ “คลั่งไคล้วัยเยาว์” กำลังเปลี่ยนไป เข้าสู่ยุคของความงามแบบเหมาะสมตามอายุ และเกิดไอดีลใหม่ของความงามที่ว่า “แม้ว่าจะมีอายุมากขึ้น มีริ้วรอยมากขึ้น แต่ก็ยังสวยสุขภาพดีได้แบบสมวัย”
โดยเฉพาะในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน เกาหลีใต้ ฯลฯ พบว่าเทรนด์นี้มาแรงตั้งแต่ช่วงต้นปี และครองกระแสต่อเนื่องมาจนถึงปลายปีนี้ นักการตลาดหลายคนมองว่าเทรนด์นี้อาจจะยึดหัวหาดไปจนถึงปี 2022 อีกด้วย
เพราะอะไร? อินฟลูเอนเซอร์หญิงสูงวัยถึงมาแรงในยุคนี้
1. แบรนด์เจาะกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ ที่มีกำลังซื้อสูง
มีข้อมูลจาก National Venture Capital Association (สมาคมร่วมทุนแห่งชาติสหรัฐฯ), Ernst & Young (บริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลก) และ AARP (องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ของสหรัฐฯ เพื่อส่งเสริมให้คนอเมริกันอายุ 50 ปีขึ้นไปเลือกใช้ชีวิตของตัวเองได้) ระบุว่า
ผู้คนในรุ่น “เบบี้บูมเมอร์” จะมีฐานะร่ำรวยกว่าคนรุ่น “มิลเลนเนียล” ถึง 12 เท่า และคิดเป็นประมาณ 56% ของผู้ใช้จ่ายทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา แต่พวกเขากลับเป็นกลุ่มเป้าหมายน้อยกว่า 10% ของการตลาดทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ยังคงเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อายุน้อย เพราะมองว่าเป็นกลุ่มที่เติบโตมากับโลกดิจิทัล มีความคุ้นเคยการใช้งานโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่รู้หรือไม่ ตั้งแต่มีสถานการณ์โควิดระบาดในช่วง 2 ปีมานี้ กลายเป็นว่าคนรุ่นพ่อ แม่ ลุง ป้า (เบบี้บูมเมอร์) สามารถใช้โซเชียลมีเดียและเข้าถึงการตลาดแบบ #อีคอมเมิร์ซ เพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างมาก และมีกำลังจ่ายมากกว่าด้วย
2. ความต้องการอินฟลูเอนเซอร์สูงวัยเพิ่มมากขึ้น
Rahel Marsie-Hazen ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดด้วยอินฟลูเอนเซอร์ ให้ความเห็นว่า เมื่อก่อนถ้าให้นึกถึงคำว่า ‘อินฟลูเอนเซอร์’ คนส่วนใหญ่มักนึกถึงคนที่มีอายุประมาณ 20-30 ปี แต่ในขณะที่ปีนี้ การตลาดด้วยอินฟลูเอนเซอร์เติบโตอย่างต่อเนื่อง เราจึงได้เห็นคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์และ Gen X รุ่นเก่าๆ ที่กลายมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์มากขึ้น
เนื่องจากแบรนด์ต่างๆ เริ่มมีความเท่าทันและเข้าใจในเทรนด์นี้มากขึ้นแล้วว่า “ความต้องการอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นคนสูงวัยกำลังเพิ่มสูงขึ้น” โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ของชาวเบบี้บูมเมอร์ในสังคมผู้สูงอายุของหลายๆ ประเทศในยุคนี้
หากแบรนด์ต้องการเข้าถึงใจผู้บริโภคกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ ก็ต้องเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีวัยเดียวกันในการนำเสนอสินค้า เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้บริโภคจะรู้สึกตื่นเต้นและมีเอนเกจกับแบรนด์ เมื่อได้เห็นตัวแทนในกลุ่มอายุของพวกเขาอยู่ในคอนเทนท์เหล่านั้น
3. หลายแบรนด์ในไทย เริ่มมุ่งสู่การตลาดนี้ด้วย
ส่วนในประเทศไทย มีข้อมูลจาก INFLUENCER HOUSE สำรวจพบว่า ผู้สูงอายุคนไทยใช้เวลาบนอินเทอร์เน็ตประมาณ 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และพวกเขาเชื่อว่าโซเชียลมีเดียสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาได้ด้วย
โดยกลุ่มเบเบี้บูมเมอร์เป็นผู้มีรายได้สูงที่มักใช้จ่ายมากกว่ากลุ่มอื่นๆ แถมมีแนวโน้มในการใช้จ่ายเงินบนโลกออนไลน์มากกว่ารุ่นหลานๆ เสียด้วยซ้ำ
โดยผู้คนที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปในประเทศไทย มีมากกว่า 55% ที่ติดตามอินฟลูเอนเซอร์บนโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มที่มีการใช้มากที่สุดคือ LINE อยู่ที่ 21% และ Facebook อยู่ที่ 13%
ประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุประมาณ 17.6 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ และนี่คือสาเหตุที่แบรนด์ส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นว่าการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในประเทศไทย ควรจะมีกลยุทธ์ในการเจาะกลุ่มผู้สูงอายุ
เมื่อมีกำลังซื้อที่สูงกว่า จึงทำให้คนรุ่นพ่อแม่ตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการ ผ่านทางออนไลน์ได้ง่าย โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องราคา โดยเฉพาะถ้าแบรนด์สามารถกระตุ้นความต้องการซื้อ ด้วยการสาธิตการใช้งานจากอินฟลูเอนเซอร์ในวัยเดียวกัน ก็ยิ่งทำให้กลุ่มลูกค้าสูงวัยตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่าเดิม
นี่จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอินฟลูเอนเซอร์สูงวัยหลายคน ก้าวเข้ามาโลดแล่นบนโลกโซเชียลมีเดียและโด่งดังมากๆ
4. อินฟลูเอนเซอร์สูงวัยที่โด่งดังในต่างประเทศ
- baddiewinkle :
อินฟลูเอนเซอร์รุ่นเดอะวัย 93 ปี ชาวอเมริกัน อินฟลูเอนเซอร์ด้านความงามและแฟชั่น ยอดติดตามในไอจี 3.4 ล้านฟอลโลเวอร์
คุณยายเป็นผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์อันดับต้นๆ ที่ออกมาพูดในประเด็น Ageism (การเหมารวมและเลือกปฏิบัติต่อคนโดยถือเรื่องอายุหรือวัยเป็นหลัก) โดยสนับสนุนให้คนทุกวัยมีเสรีภาพด้านความงามในแนวทางของตนและยอมรับความงดงามตามวัย ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Baddie ได้ร่วมงานกับหลายแบรนด์ เช่น Smirnoff, Missguided และร่วมลงทุนในแอพฯ Stash Winkle
- iconaccidental (Lyn Slater):
ศาสตราจารย์ลิน สเลเตอร์ (Lyn Slater) อาจารย์สอนด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม (Fordham) นครนิวยอร์ก วัย 67 ปี ที่มีผู้ติดตาม 756,000 ฟอลโลเวอร์
อาจารย์ลินเริ่มต้นจากเขียนบล็อกแฟชั่นในปี 2014 แล้วเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย บวกกับสไตล์การแต่งตัวที่สุดเฉี่ยว ทำให้ไอจีของเธอเติบโตอย่างมาก ความสำเร็จในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่น ทำให้เธอได้ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นฝรั่งเศสมากมาย เช่น Maison Margiela, Perricone MD และ Oribe
- Colleen Heidemann :
อินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหญ่วัย 72 ปี ชาวอเมริกัน เธอเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้านความงามและแฟชั่น ผู้มีคาแรกเตอร์โดดเด่น จนได้เซ็นสัญญากับบริษัท Next Model Management และได้ถ่ายแบบให้กับแบรนด์ต่างๆ มากมาย ทั้งแบรนด์แฟชั่นและเครื่องสำอาง สกินแคร์ เมกอัพ โดยมียอดติดตามเกือบ 2 แสนคน
การเติบโตของกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า ภาพลักษณ์ของความชราแบบเดิมๆ มันล้าสมัยไปแล้วจริงๆ
---------------------------------
อ้างอิง :