ธุรกิจเฮ! รัฐลดเวลาเคอร์ฟิว ร้านอาหารพร้อมเปิดให้บริการกลางคืน

ทันที่รัฐประกาสลดเวลา “เคอร์ฟิว” เป็น 5 ทุ่ม ถึงตี 3 หรือ 23.00-03.00น. หลายธุรกิจขานรับนโยบายดังกล่าวอย่างมาก โดยเฉพาะร้านอาหารที่เปิดให้บริการกลางคืน หรือไนท์ คาเฟ่ ต่างๆ หลังจากที่ผ่านพื้นที่สีแดงเข้มเจอเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ไม่เอื้อให้ธุรกิจร้านอาหารที่บริการกลางคืนนัก เพราะร้านบางแห่งเปิดตอน 17.00-24.00 น. หากต้องปิดครัวเวลา 20.00 น. ไม่คุ้มกับต้นทุนในการบริหารจัดการนัก 

หนึ่งในผู้ประกอบการที่ยืนยันยังไม่เปิดร้านอาหารให้บริการ จนกว่ารัฐจะลดเวลาเคอร์ฟิว คือร้านชอคโกแลตวิลล์ มีเนื้อที่ 16 ไร่ เพราะหากเปิดไปได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงต้องปิดร้าน ทว่า เมื่อรัฐไฟเขียวลดเคอร์ฟิว จึงพร้อมกลับมาให้บริการทันที 

วิน สิงห์พัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชอคโกแลตกรุ๊ป ผู้บริหารร้านชอคโกแลตวิลล์ ซูชิ เอ็กซ์เพรส เปิดเผยว่า ร้านชอคโกแลตวิลล์จะรีบกลับมาเปิดให้บริการทันทีในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ แม้จะกังวลใจว่าจะเตรียมงานได้ “ทันหรือไม่” แต่ช้าสุดจะไม่เกินวันฮาโลวีน 31 ตุลาคมนี้แน่นอน 

แม้การลดเวลาเคอร์ฟิว เอื้อให้ร้านอาหารกลางคืนเปิดบริการได้ แต่ยังมีข้อจำกัดห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลกระทบต่อการค้าขายในร้านอาหารอยู่ดี โดยขายเหล้าเบียร์ไม่ได้มีผลต่อยอดขายหายไปราว 30-40% 

“ลดเวลาเคอร์ฟิว ผับ บาร์ ได้ประโยชน์ไหม..แต่การเปิดร้านย่อมดีกว่าไม่ได้เปิด”

ทั้งนี้ มองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคมีการปรับตัว เมื่อลดเวลาเคอร์ฟิว ร้านกลางคืนให้บริการได้ จะออกมาที่ร้านเร็วขึ้น และกลับให้ทันเวลาเคอร์ฟิว เช่น ไปเที่ยว กินอาหาร สังสรรค์ 1 ทุ่ม กลับบ้าน 4 ทุ่ม หรือกลับในเวลาที่ต้องกลับ เป็นต้น 

ทว่า สิ่งที่ปลดล็อดให้ธุรกิจร้านอาหารเปิดบริการกลางคืนมากสุดนเวลานี้ คือการให้ “เล่นดนตรี” ภายในร้านได้ เพราะไม่เพียงช่วยให้อาชีพศิลปิน นักดนตรีกลับมาทำงานได้ แต่อาชีพกลางคืนอื่นๆได้ทำมาหากินด้วย 

“ทุกคนดีใจเหมือนเราได้นับ 1 ใหม่ เราไม่มองอดีต ความสำเร็จที่ผ่านมาเป็นยังไง เพราะคราวนี้คือการเซ็ทซีโร่ของจริง ใครมีลมหายใจอึดกว่ากัน แต่หลังจากนี้เชื่อว่าผู้บริโภคจะออกไปทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น เวลา 1 ชั่วโมงที่ร้านอาหารขยายเวลาให้บริการมีผลมาก หากขยายจาก 23.00 น.ออกไปอีก ก็จะเป็นอีกกรณี” 

สำหรับธุรกิจอาหารเมื่อกลับมาเปิดให้บริการ มักจะฟื้นตัวได้เร็วสุด เมื่อเทียบกับธุรกิจเซ็กเตอร์อื่นๆ เพราะร้านอาหาร การบริโภคเมนูโปรด เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนเมือง โดยเฉพาะที่ผ่านมา ร้านอาหารในห้างเปิดให้บริการได้ บรรดาร้านอาหารเครือข่ายหรือเชนฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี ซึ่งบริษัทมีร้านซูชิ เอ็กซ์เพรส ให้บริการเช่นกัน

บรรยากาศร้านชอคโกแลตวิลล์

อย่างไรก็ตาม ร้านชอคโกแลตวิลล์ กลับมาเปิดให้บริการประมาณการณ์ยอดขายเดือนละ 10 ล้านบาท เนื่องจากมีเพียงลูกค้าชาวไทย จากปกติฐานลูกค้า 100% แบ่งเป็นคนไทย 50% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 50%

“ปกติชอคโกแลตวิลล์ทำยอดขายหลักร้อยล้านบาท แต่การกลับมาเปิดครั้งนี้ ทำยอดขายเดือนละ 10 ล้านบาท ก็ถือว่าเก่งแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ไทยกำลังนับถอยหลังเปิดเมืองวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ หากกรณีไม่คาดคิดเกิดโรคระบาดระลอกใหม่ เชื่อว่ามาตรการต่างๆคงไม่ทำเหมือนเดิม เช่น ปิดเมือง ล็อดาวน์ และรัฐคงศึกษาทั่วโลก หลายประเทศมีการยอมแพ้ที่ทำจะทำให้โควิดเป็นศูนย์ เช่น นิซีแลนด์ แต่ทุกคนจะต้องอยู่กับโรคระบาดให้ได้

“เชื่อว่าที่ผ่านมาการบริหารจัดการโควิด รัฐทำดีสุดแล้ว อาจตะกุกตะกักช่วงแรก แต่รอบนี้ถือว่าดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เราฉีดวัคซีนเร็วขึ้นมาก การลดเวลาเคอร์ฟิว ปลดล็อดให้ธุรกิจท่องเที่ยว ที่พึ่งพานักท่องเที่ยว และการใช้ชีวิตท่องราตรี ถึง 80% ทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับไหลและแตกต่าง ถ้าไม่ลดเวลาเคอร์ฟิว ธุรกิจก็ไม่ฟื้นตัวกลับมา”