เปิดประเทศ 1 พ.ย. จุดเริ่มต้นก้าวข้ามโควิด
การเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ เป็นความท้าทายและเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญของไทยว่า จะรับมือหรือแก้ปัญหาผลกระทบจากโควิด-19 ได้มากน้อยเพียงใด และถ้าทำได้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการก้าวข้ามโควิด-19
รัฐบาลประกาศชัดเจนที่จะเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2564 โดยจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านช่องทางเครื่องบินเข้ามาประเทศไทยแบบไม่ต้องกักตัว แต่มีเงื่อนไขต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำ และมีผลการตรวจโรคโควิด-19 ที่เป็นลบ รวมทั้งมีผลการฉีดวัคซีนครบโดสสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ในพื้นที่ที่มีความพร้อมในการบริหารจัดการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยใช้โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เป็นแนวทางการบริหารจัดการ
ที่ผ่านมา รัฐบาลอยู่บนทาง 2 แพร่ง ในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ระหว่างการออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 กับการเปิดประเทศเพื่อให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวเข้ามาหลังจากที่รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปเกือบ 100% ซึ่งทำให้รัฐบาลผลักดันโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์เพื่อเป็นโครงการนำร่องในการเปิดประเทศมาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 และถึงแม้จะยังไม่ทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นตามมา
การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ที่เริ่มต้นนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2564 ถึงปัจจุบัน ถือเป็นระลอกที่มีความรุนแรงต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 เดือน ครึ่ง ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมนับตั้งแต่ปี 2563 ถึงวันที่ 17 ต.ค. 2564 รวม 1.78 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิต 18,179 ราย ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทยเมื่อเทียบกับหลายเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา และจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่เคยสูงเกิน 20,000 ราย ได้ลดลงอยู่ที่ 10,000 รายเศษ และผู้ป่วยหนักที่ลดลงทำให้รัฐบาลกล้าที่จะประกาศเปิดประเทศ
การเปิดประเทศถูกเริ่มต้นจากโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถพลิกฟื้นสถานการณ์การท่องเที่ยวของเทศไทยอย่างชัดเจน แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่เริ่มเห็นโอกาสในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยมีการกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวด แต่ก็มีบางช่วงที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้นในระดับที่น่ากังวล ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับการเปิดเมืองท่องเที่ยวหลังจากนี้
โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 จะเปิดเมืองท่องเที่ยวเพิ่มใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
นอกจากการฉีดวัคซีนในแต่ละเมืองในระดับที่เพียงพอแล้ว ความร่วมมือของทุกฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเปิดเมืองท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาตินำเชื้อมาติดคนไทย และไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติติดเชื้อจากคนไทย
ดังนั้น การเปิดเมืองครั้งนี้จึงเป็นความท้าทายและเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญของประเทศไทยว่าจะรับมือหรือแก้ปัญหาผลกระทบจากโรคโควิด-19 ได้มากน้อยเพียงใด และถ้าทำได้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการก้าวข้ามโควิด-19