ทุนยักษ์เร่งพลิก "สีลม-พระราม4" ดัน "กรุงเทพฯ" สู่โกลบอลแลนด์มาร์ค
ย่านการค้าบนถนนพระราม 4 สีลม ต่อเนื่องไปถึงสามย่าน ก้าวสู่ทำเลยุทธศาสตร์ที่กำลังถูกพัฒนาพลิกโฉมครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษ! บรรดาทุนค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ กว้านทำเลงาม! ปักหมุดพัฒนาโครงการระดับหมื่นล้านแสนล้านอย่างต่อเนื่อง ร่วมสร้างภูมิทัศน์ใหม่
โดยมีโปรเจคไฮไลท์ “วันแบงค็อก” ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ยึดหัวหาดสร้างอาณาจักรมิกซ์ยูสมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท บนที่ดิน 104 ไร่ของโรงเรียนเตรียมทหารเดิม ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างตามแผนเดิมกำหนดเปิดบริการเฟสแรกปี 2566 จะแล้วเสร็จทั้งโครงการในปี 2569 มุ่งเป็นแลนด์มาร์คครบวงจรระดับโลกแห่งใหม่ที่เปี่ยมศักยภาพในการดึงดูดบริษัทชั้นนำ นักท่องเที่ยว และคนไทย ด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอ พื้นที่รีเทล โรงแรมระดับลักชัวรี ที่พักอาศัย และพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรมที่เชื่อมต่อทั่วถึงกันทั้งโครงการ
นักวิเคราะห์ในธุรกิจค้าปลีก กล่าวว่า อนาคตย่านการค้าพระราม 4 จะก้าวสู่หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ และประเทศไทย ไม่ต่างจากถนนเศรษฐกิจ “สุขุมวิท” เป็นที่เสมือนเส้นเลือดใหญ่มายาวนาน ต่อจิ๊กซอว์และส่งเสริมซึ่งกันและกันฉายภาพความเป็น “โกลบอลแลนด์มาร์ค” สู่สายตาชาวโลก ทั้งนักลงทุน นักท่องเที่ยว
"แม้วิกฤติโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการดำเนินธุรกิจ แต่โครงการมิกซ์ยูสเหล่านี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง ตามแผนพัฒนาจะแล้วเสร็จในปี 2566 นับเป็นจังหวะดีที่กำลังซื้อ และเศรษฐกิจจะพลิกฟื้นขึ้นมาจากวิกฤติ มีการเดินทางระหว่างประเทศได้น่าจะอยู่ในระดับปกติทีเดียว ส่งผลดีและสร้างความได้เปรียบต่อการเปิดตัวโครงการใหม่ที่จะดึงดูดลูกค้าได้ทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสในประเทศไทย"
อย่างไรก็ดี ในย่านธุรกิจการค้า “สีลม” ซึ่งปักหมุดเป็นถนนสายเศรษฐกิจใจกลางกรุงเทพฯ มายาวนาน เปรียบเสมือน “วอลล์สตรีท” ของประเทศไทย เป็นที่ตั้งของบริษัททางการเงินชั้นนำในประเทศ ขณะนี้ยังเป็นจุดเชื่อมโยงการคมนาคมทุกระนาบ ทั้งรถไฟฟ้าบนดิน ใต้ดิน ปัจจุบันย่านสีลมมีอาคารสำนักงานรวมกว่า 43 แห่ง มีคอนโดมิเนียมทุกระดับ โรงเรียน 23 แห่ง โรงพยาบาล 3 แห่ง โครงการค้าปลีก 3 แห่ง และธุรกิจ “ไนท์ไลฟ์” ที่สร้างสีสันโด่งดังทั่วโลก ก่อให้เกิด “กำลังซื้อมหาศาล” ด้วยปริมาณทราฟฟิกวันธรรมดากว่า 7 แสนคน ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์กว่า 5 แสนคน จากฐานผู้พักอาศัย 2.2 แสนคน และคนทำงานกว่า 3.5 แสนคน
ถนนสีลมจัดได้ว่าไม่มีแลนด์แบงก์ใหม่ หรือ มากพอสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ หากต้องการลงหลักปักฐานสร้างชื่อบนทำเนียบถนนสายเศรษฐกิจแห่งนี้ต้องมองหาพันธมิตร! โดยกลุ่มเซ็นทรัล ผนึกกลุ่มดุสิตธานี ร่วมกันพัฒนาโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท บนที่ดิน 23 ไร่ บริเวณหัวมุมถนนสีลมและพระราม 4 ตรงข้ามสวนลุมพินี หรือที่ตั้งโรงแรมดุสิตธานีเดิมนั่นเอง
“ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ภายใต้การร่วมลงทุนพัฒนาของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มุ่งสู่เป้าหมายการเป็น แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ!!
ขณะนี้อยู่ในระหว่างก่อสร้างงานใต้ดินและดำเนินตามแผนงานที่วางไว้ โดยมีกำหนดเปิดบริการเฟสแรกปลายปี 2566 เริ่มจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ต่อด้วยศูนย์การค้าเซ็นทรัลพาร์ค และอาคารสำนักงานเซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซสในปี 2567 และอาคารที่พักอาศัย ดุสิต เรสซิเดนเซส และ ดุสิต พาร์คไซด์ กลางปี 2568
ล่าสุด บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT ธุรกิจในกลุ่ม “ทีซีซี กรุ๊ป” กิจการอสังหาฯ ์ของตระกูล “สิริวัฒนภักดี” ได้เข้าลงทุนอาคารห้างสรรพสินค้าโรบินสันเดิม บริเวณหัวมุมถนนสีลมตัดถนนพระราม 4 บนที่ดินให้เช่าจาก “สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” ขนาด 2 ไร่ 2 งาน 71 ตร.ว. สัญญาเช่า 30 ปี โดยพัฒนาโครงการแบบผสมผสานหรือ “มิกซ์ยูส” ภายใต้ชื่อ “สีลมเอจ” (Silom Edge) มูลค่าการลงทุน 1,800 ล้านบาท ร่วมวงปลุกความคึกคักและพลิกโฉมย่านสีลมให้ล้ำสมัย!
ธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT กล่าวว่า “สีลมเอจ” เป็นโครงการแบบ Re-development ครั้งแรกของบริษัทที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งและกระจายความเสี่ยง พร้อมเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้พอร์ตคอมเมอร์เชียล จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการนี้ไตรมาส 4 ปี 2565 คาดใช้เวลาคืนทุน 9-10 ปี มีผลตอบแทนการลงทุน IRR (Internal Rate of Return) อยู่ที่กว่า 10%
การแปลงโฉมอาคารเก่าดังกล่าวซึ่งเคยเป็นอาคารสำนักงานแห่งแรกของถนนสีลม ได้วางคอนเซปต์ใหม่ “The New Sandbox Community in CBD” ตัวอาคารสูง 24 ชั้น พื้นที่โครงการรวม 50,000 ตร.ม. เป็นพื้นที่ให้เช่า 22,000 ตร.ม. เป็นส่วนของอาคารสำนักงานพันธุ์ใหม่ 12 ชั้นบนสุดด้วยขนาดพื้นที่ 12,000 ตร.ม. มีพื้นที่ค้าปลีก 7 ชั้น รวม 10,000 ตร.ม. ปัจจุบัน สีลมเอจ พัฒนาไปแล้วกว่า 65% พร้อมเปิดให้บริการเดือน ก.ย.2565
“แม้สีลมเอจจะไม่ใช่โครงการขนาดใหญ่ แต่ก็เป็นโครงการขนาดเล็กที่ดีที่สุดบนทำเลที่มีศักยภาพซึ่งกำลังจะมีการพัฒนามิกซ์ยูสขนาดใหญ่ของรายอื่น ยืนยันถึงกำลังซื้อมหาศาลของย่านสีลม สีลมเอจมีความแตกต่างด้านคอนเซปต์ เป็นพื้นที่แซนด์บ็อกซ์บนทำเลสุดยอดใจกลางเมือง เจาะกลุ่มเป้าหมายหลักผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ทอัพและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เติบโตก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา”
พร้อมให้เหล่า “รุกกี้” (Rookie) ผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่มีศักยภาพ แต่ยังขาดประสบการณ์ และต้องการสนามแข่งได้เข้ามาทดลองเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาด โครงการสีลมเอจจึงเปรียบเสมือนเป็น “Rookie Paradise” ของผู้ประกอบการตัวเล็กได้ลองสนาม ในโมเดล “O2O2O” (Online to Offline to Online) เพราะการขายของบนช่องทางออนไลน์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีหน้าร้านรองรับลูกค้าที่ต้องการเห็นและสัมผัสสินค้า เพื่อต่อยอดการขายออนไลน์ต่อไป
ตัวโครงการยังตอบดีมานด์ New Gen ในยุคดิจิทัล สอดรับเทรนด์โลกที่ทุกวันนี้ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิต! มีการผสานสองเรื่องเข้าด้วยกัน (Work-Life Blend) รวมถึงเทรนด์ “สังคมไร้เงินสด” การใช้ “สกุลเงินดิจิทัล” (คริปโตเคอร์เรนซี) ที่สีลมเอจจะมีแพลตฟอร์มรองรับเรื่องเหล่านี้ในอนาคต