GLORY ประกาศพร้อมเข้าเทรดตลาดmai วันที่ 25 ต.ค.นี้

นายจรัญพัฒณ์ บุญยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจม.รุ่งเรืองตลอดไป หรือ GLORYดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการเทคสตาร์ทอัพด้านวรรณกรรม อ่าน-เขียน หนังสือ นิยาย การ์ตูน ออนไลน์ และให้บริการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ Kawebook.com เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมนำหุ้นเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)ในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ในหมวดเทคโนโลยี 

โดยการระดมทุนในครั้งนี้เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการเทคสตาร์ทอัพ ที่พัฒนาแพลตฟอร์มด้านวรรณกรรม สำหรับ อ่าน-เขียน นิยาย การ์ตูน และ หนังสือ ผ่านช่องทางดิจิทัล ในระดับต้นๆของประเทศ และGLORY ยังถือเป็นบริษัทฯแรกของธุรกิจประเภทดังกล่าวที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 

 

ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งของบริษัทฯที่มีประสบการณ์เป็นผู้ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึงรองรับและตอบสนองการขยายตัวของวงการหนังสือในตลาด                E-Commerce ให้ทันกับโลกยุคดิจิทัล ออนไลน์ โดยจะเห็นได้จากภาพรวมอุตสาหกรรม E-book ที่เติบโตเฉลี่ยเติบขึ้น 14 % ต่อปี ซึ่งถือเป็นอีกจุดแข็งที่สำคัญทางธุรกิจที่ทำให้บริษัทฯสามารถต่อยอดขยายธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลและสารสนเทศ รวมไปถึงแตกไลน์แพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการลงทุนและรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น 

“GLORY เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ Kawebook ที่มีความโดดเด่นด้วยวรรณกรรมแปลที่ถูกลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็น Unique Content เฉพาะของบริษัทฯซึ่งมีเพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย และจากการเปิดช่องทางลงผลงานให้กับสำนักพิมพ์ชั้นนำจากในประเทศ และนักเขียนอิสระ โดยนักเขียนที่นำผลงานมาลงเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม ในรูปแบบของ User Generated Content (UGC) จะได้รับเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งที่สูงมากเมื่อเทียบกับอุสาหกรรมแพลตฟอร์ม ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ GLORY ที่พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนวงการหนังสือให้เข้าสู่โลกออนไลน์อย่างมั่นคง โดยปัจจุบันบริษัทฯ ถือเป็นเทคสตาร์ทอัพที่มีฐานจำนวนสมาชิกที่สูงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต” 

ในอนาคต Glory มีแผนเตรียมพร้อมขยายการลงทุนเพื่อพัฒนา Platform รองรับการ Scale Up ไปยังต่างประเทศและเตรียมแปลลิขสิทธิ์วรรณกรรมไทยที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยเป็น Prototype ส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศเพื่อเป็นการเปิดตลาดของวรรณกรรมไทยด้านออนไลน์ให้มากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังมีเป้าหมายพัฒนา Platform ใหม่เพิ่มเติมโดยเล็งขยายฐานลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายนักอ่านเพศหญิงมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทฯมีฐานลูกค้าในกลุ่มเพศชายเป็นหลัก จากความโดดเด่นในแนววรรณกรรมหมวดมันส์ โดย Platform ใหม่จะมีการพัฒนา Feature ที่จะมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายนักอ่านวัยรุ่นเพิ่มเติมขึ้นอีกเพื่อให้ Platform ขยายฐานลูกค้านักอ่านได้มากขึ้นและพัฒนา Platform ให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน (UX) เพิ่มขึ้น 

อย่างไรก็ตาม สำหรับเม็ดเงินทุนที่ได้จากการ IPO ในครั้งนี้ จำนวน 189 ล้านบาท บริษัทฯจะนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมไปถึงการซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมจากต่างประเทศเพิ่มเติมประมาณ 70% จากที่มีในปัจจุบันเพื่อขยายจำนวนสินค้ารองรับแนวทางการขยาย Platform และช่องทางการจัดจำหน่ายวรรณกรรมให้มีลิขสิทธิ์ครอบคลุม สำหรับตอบสนองฐานลูกค้าได้ในทุกกลุ่มเป้าหมาย

ด้านนาย สัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัดในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจากที่หุ้น GLORY เปิดจองซื้อหุ้น IPO ระหว่างวันที่ 12 , 14 และ 15  ตุลาคมที่ผ่านมา ในราคาหุ้นละ 2.80 บาท จำนวนทั้งสิ้น 70 ล้านหุ้น ได้กระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนศักยภาพธุรกิจและความเชื่อมั่นในฐานะผู้ประกอบการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ที่บริการดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์มและเป็นสื่อกลางการจัดจำหน่ายวรรณกรรมแปลลิขสิทธิ์ต่างประเทศ นิยาย การ์ตูน และหนังสือ ออนไลน์ 

และเพื่อเป็นการตอกย้ำความน่าลงทุน GLORY มีนโยบายจ่ายเงินปันผลตามนโยบายบริษัทฯ   ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ทำให้ GLORY จึงเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุน และเชื่อมั่นว่า การระดมทุนของ GLORY ในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯสามารถต่อยอดและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในอนาคตให้มีศักยภาพและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าวันที่ GLORY เข้าทำการซื้อขายวันแรกในวันที่ 25 ตุลาคม 2564 นี้ จะเป็นหุ้นที่น่าจับตาและเป็นอีกหนึ่งหลักทรัพย์ที่จะมีความโดดเด่นอย่างแน่นอน  

“ หากพิจารณาจากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า บริษัทฯ มีรายได้หลักจากการบริการและจัดจำหน่ายวรรณกรรมออนไลน์ที่แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปี 2561 – ปี 2563 เทียบเป็นจำนวน 42.52 ล้านบาท 73.43 ล้านบาท และ 78.24 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 35.81% ในขณะที่รายได้จากการจำหน่ายและบริการช่วง 6 เดือนแรกปี 2564 อยู่ที่ 45.43 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 19.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า GLORY จะเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้งตามภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรมในอนาคต ”