เซ็นทรัลพัฒนายึดพื้นที่กรีนฟิลด์!ลุยมิกซ์ยูสปั้นเดอะฟิวเจอร์ออฟรีเทล
"เซ็นทรัลพัฒนา" เดินหน้าบุกเบิกพื้นที่ใหม่ทั่วประเทศ ปักหมุด "มิกซ์ยูส" สร้างอาณาจักรเมืองครบวงจร ลุย "เดอะฟิวเจอร์ออฟรีเทล" อิงเทรนด์โลกรับการใช้ชีวิตยุคเน็กซ์นอร์มอล จ่อเปิด 3 ศูนย์การค้าใหม่ "ศรีราชา-อยุธยา-จันทบุรี" รับเปิดเมือง ฟื้นธุรกิจ ปลุกเศรษฐกิจไทย
ช่วงเวลาเกือบ 2 ปีนี้โลกธุรกิจต้องเผชิญโรคระบาดครั้งใหญ่รอบศตวรรษสั่นคลอนการดำเนินงาน สภาพคล่อง ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ แต่ “โอกาส” ท่ามกลางวิกฤติยังคงเปิดกว้าง! แม้กระทั่งห้างร้านค้าปลีก ศูนย์การค้า ที่ถูกจับตาผลกระทบจากกระแสดิจิทัล ดิสรัปชัน และวิกฤติโควิด ที่เป็นปัจจัยเร่งแจ้งเกิดการค้าขายบนโลกออนไลน์อย่างเต็มตัว! หากมองการเคลื่อนทัพของบรรดากลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ยังคงเดินหน้าเร่งขยายอาณาจักร (ออฟไลน์) ช่วงชิงทำเลยุทธศาสตร์ทั่วประเทศ
ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ต กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนา มุ่งบุกเบิกพื้นที่ใหม่ ๆ หรือ กรีนฟิลล์ (Greenfield) ทั่วประเทศ ในรูปแบบของการ “สร้างเมือง” นำสู่การพัฒนา สร้างความเจริญในบริเวณโดยรอบภายใต้การลงทุนแบบผสมผสาน หรือ มิกซ์ยูสโปรเจค! มีความครบวงจรของศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน และที่อยู่อาศัย รวมถึงองค์ประกอบต่าง ๆ รองรับการใช้ชีวิตโดยมี “เซ็นทรัล” เป็นศูนย์กลาง! หรือ Center of Life
ภายในปีนี้ เซ็นทรัลพัฒนา เตรียมเปิดให้บริการ 2 โครงการใหม่ในเมืองเศรษฐกิจ “เซ็นทรัล ศรีราชา” วันที่ 27 ต.ค. นี้ บนทำเลยุทธศาสตร์ใจกลางเมือง ศรีราชา เป็นการสร้างย่านธุรกิจดาวน์ทาวน์แห่งอีอีซี! และ “เซ็นทรัล อยุธยา” วันที่ 30 พ.ย.ที่จะเป็นการต่อจิ๊กซอว์ความเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกให้กับพระนครศรีอยุธยาเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ของโบราณสถานภายใต้ “เกียวโตโมเดล” ประเทศญี่ปุ่น
ต่อเนื่องปี 2565 เตรียมเปิด “เซ็นทรัล จันทบุรี” เดือน มี.ค.พร้อมแผนปรับโฉมครั้งใหญ่ เซ็นทรัล พระราม 2 เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล พัทยา นอกจากนี้อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการร่วมทุน ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และโครงการใหม่บนที่ดินบล็อก A สยามสแควร์ (สกาล่า) ที่คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของรูปแบบได้
“เซ็นทรัล ศรีราชา จะเป็นศูนย์การค้าแห่งอนาคต ด้วยความแตกต่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน หรือที่เรียกว่า The Future of Retail จะเป็นต้นแบบโครงการมิกซ์ยูสของเซ็นทรัลพัฒนาตอบรับเทรนด์ระดับโลกในทุกมิติ"
โรคโควิด-19 และเทรนด์โลกที่ผู้คนต่างให้ความสนใจเรื่องสุขภาพ และยึด “สุขอนามัย” เป็นหัวใจในการใช้ชีวิตในยุคหลังโควิด ดังนั้นการพัฒนาและดีไซน์พื้นที่ "ศูนย์การค้า" จะต้องให้ความสำคัญทางด้าน "Hygiene & Safety" มากขึ้น
ซึ่งหากมองต้นแบบของ เซ็นทรัล ศรีราชา ได้นำนวัตกรรม “Smart & Healthy Building” มาใช้เป็นครั้งแรก โดยอัพเกรดระบบปรับอากาศและกรองอากาศเพื่อให้มีอากาศที่สะอาดหมุนเวียนภายในศูนย์การค้ามากที่สุด ด้วยการติดตั้งแผ่นกรองอากาศ UVC Lamp แสงยูวีที่เครื่องปรับอากาศส่วนกลาง ลดการแพร่เชื้อโรคในระบบปรับอากาศ ติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศตามจุดต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ!
ศูนย์การค้ายังมุ่งสู่ "Eco-Friendly Mall" ตามเทรนด์ Green Living & Circular Economy โครงการต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ การดำเนินนโยบายประหยัดพลังงานต่าง ๆ โดยเฉพาะการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โครงการ
นับจากนี้ "เซ็นทรัลพัฒนา" ยังมุ่งทลายกำแพงพื้นที่สร้างการเชื่อมต่อประสบการณ์ชอปปิงโดยไม่แบ่งแยกโซน ชาย หญิง เด็ก เหมือนในอดีตที่การจัดวางพื้นที่จะอยู่ในลักษณะบล็อก! จากนี้ไปทุกเพศ ทุกวัย ทุกครอบครัว จะสามารถเดินชอปปิงได้ในโซนเดียวกันแบบไร้รอยต่อ เป็นอีกแนวทางสำคัญนอกเหนือจากการพัฒนา “ดิจิทัลโมบาย” ต่อยอด “ดิจิทัลไลฟ์สไตล์” ให้ทั้งลูกค้าและคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง
“ห้างร้านค้าปลีก โลกการค้าปัจจุบันและอนาคตจะเป็น Seamless Experience สร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ ไม่มีขอบเขตของห้างสรรพสินค้า พลาซ่า ออฟไลน์ ออนไลน์ เข้ามาเป็นข้อจำกัด”
ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมพร้อมของ "เซ็นทรัลพัฒนา" รับการ "เปิดประเทศ" วันที่ 1 พ.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาที่ได้เริ่ม “ปลดล็อก” ข้อจำกัดต่าง ๆ ทำให้ตลาดปรับตัวดีขึ้น ลูกค้ากลับมาเดินศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ เฉลี่ย 70-75% ถือว่าไต่ระดับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!! ส่วนจังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดอย่างภาคอีสาน ลูกค้าใช้บริการ 100%
“เวลานี้มู้ดเริ่มดีมากขึ้น หากนักท่องเที่ยวกลับเข้ามา มีการผ่อนคลายธุรกิจไมซ์เริ่มจัดประชุม สัมมนา มีกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้นจะสร้างโมเมนตัมที่ดีต่อเนื่อง”
เป็นภารกิจสำคัญของทุกคนที่จะต้องร่วมด้วยช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และอยู่กับโควิดให้ได้! ผลักดันการเปิดเมืองให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล หากประเทศไทยสามารถควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้ เชื่อว่าปี 2565 สถานการณ์จะคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
ปักหมุด‘ศรีราชา’เจาะขุมทรัพย์อีอีซี
"เซ็นทรัล ศรีราชา" มูลค่ากว่า 4,200 ล้านบาท นับเป็นสาขาที่ 34 ปักหมุดสร้าง “ดาวน์ทาวน์ศรีราชา” ผลักดันสู่การเป็น Center of EEC ทำเลยุทธศาสตร์ที่จะเป็นนิวเอสเคิร์ฟของประเทศไทย! ดักโอกาสเหนือคู่แข่งด้วย "มิกซ์ยูส" สมบูรณ์แบบบนที่ดิน 27 ไร่ พื้นที่กว่า 1.4 แสน ตร.ม. โดยมี ศูนย์การค้า โรงแรม ที่อยู่อาศัย และคอนเวนชั่นฮอลล์ เติมเต็มสร้างย่านธุรกิจให้ศรีราชา ตอบโจทย์ Expanded Community ที่ประกอบด้วยโรงเรียน โรงพยาบาล โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ เจาะลูกค้าเป้าหมายกลุ่มกำลังซื้อสูง ทั้งครอบครัว คนทำงาน วัยรุ่น และชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยในเมืองไทย (Expat) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น
"เรามองเห็นโอกาสจากอีอีซี ซึ่งอนาคตจะเป็นซิลิคอนวัลเลย์ของไทย อีก 5 ปีข้างหน้า (2565-2569) การลงทุนของอีอีซี จะขยายตัวสูงขึ้นมีมูลค่ากว่า 2.2 ล้านล้านบาทสร้างโอกาสให้กับเมืองศรีราชา"
จะเห็นว่าถนนทุกสาย องค์กรภาครัฐและเอกชน ต่างมุ่งหน้าอีอีซี มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งด้านดาต้าเซ็นเตอร์ ไอโอที (IoT) เอื้อต่อการคอนเน็คของ เซ็นทรัล ศรีราชา ต่อยอดเจาะขุมทรัพย์มหาศาลของอีอีซี