ส่อง 5 อันดับ กองทุน SSF ผลตอบแทนสูงสุด  1 ปี

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี 2564 แล้ว ใครไม่อยากพลาด!  เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินลงทุนที่หลากหลายกับ "กองทุนรวมเพื่อการออม" (กองทุน SSF)  

แต่ก่อนจะลงทุนเชื่อว่า หลายคนก็ยังไม่รู้จะเลือกลงทุนกองไหนดี  ดังนั้น ลองมาเช็คผลตอบแทนกองทุน SSF  จากทาง "มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ"  รายงาน 5 อันดันกองทุน SSF ผลตอบแทนสูงสุด  1 ปี ณ 30 ก.ย. 2564  ไว้เป็นแนวทางในการเลือกลงทุน เพื่อสร้าง "เงินออมก็มี เงินคืนภาษีก็ได้"  ดังนี้ 

1.กองทุนเปิด แอล เอช สมาร์ท เพื่อการออม ชนิดเพื่อการออมและจ่ายเงินปันผล (LHSMARTDSSF-SSF)  มีผลตอบแทน  42.6%

2.กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นทุน เพื่อการออม (TEG-SSF)  มีผลตอบแทน   40.1%

3.กองทุนเปิด แอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออม (ASP-SME-SSF)  มีผลตอบแทน 38.7%

4.กองทุนเปิดเค พอสซิทีฟ เชนจ์ หุ้นทุน ชนิดเพื่อการออม มีผลตอบแทน (K-CHANGE -SSF) มีผลตอบแทน 36.4%

5.กองทุนเปิดเคเคพี แอ็กทิฟ อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออม (KKP ACT EQ-SSF)  มีผลตอบแทน 35.7%

 

 

 

 

 

 

 

 

ขณะเดียวกันช่วงนี้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)  ยกขบวนกองทุน SSF มาเสนอขายในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้ 

นำโดย กองทุนบัวหลวง ส่ง 3 กองทุน SSF ภายใต้ธีมการลงทุน "Thematic Fund"  ที่จะเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว ตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้น รวมถึงกองทุนที่เน้นลงทุนในประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโต ได้แก่  กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นยั่งยืนเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-SIPRMF)  ,กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นยั่งยืนเพื่อการออม (B-SIPSSF) และกองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่าเพื่อการออม (B-USALPHASSF) 

"การลงทุนใน  SSF  นั้น  มีลักษณะเป็นการทยอยลงทุนในทุกๆ ปี  ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงไปในตัว   จึงไม่จำเป็นต้องรอจังหวะเวลา ซึ่งช่วงนี้ก็เข้าสู่โค้งสุดท้ายของปีแล้ว ผู้ลงทุนสามารถลงทุนใน SSF ได้เลย ทั้งในกองทุนเดิมของกองทุนบัวหลวงที่เสนอขายอยู่ในปัจจุบัน หรือจะเลือกลงทุนในกองทุน IPO ใหม่ กองทุนบัวหลวงก็มีผลิตภัณฑ์ชุดใหญ่เตรียมไว้ให้เช่นกันครับ”  นายวศิน วัฒนวรกิจกุล  กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บลจ.บัวหลวง กล่าว 

ตามมาด้วย บลจ.กรุงศรี ที่ได้เปิดเสนอขายกองทุน SSF ใหม่ 4 กองทุน  นางสุภาพร  ลีนะบรรจง   กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี  กล่าวว่า เราคัดสรรมาจากกองทุน SSF ที่เน้นธีมการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต และเป็นกองทุนฮิตของบลจ.กรุงศรี  คือกองทุน KFGG, KF-US, KFINFRA และ KFCLIMA เพื่อเพิ่มทางเลือกในการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ และสร้างโอกาสให้พอร์ตเติบโตในระยะยาวไปพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บลจ.ไทยพาณิชย์ เอาใจนักลงทุนลดหย่อนภาษี เปิดเพิ่ม 6 กองทุน SSF มองเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง สร้างโอกาส ลงทุนระยะยาว แบ่งเป็น กองทุนหุ้นต่างประเทศ 4 กองทุน และกองทุนตามธีม 2 กองทุน   ได้แก่ 

-กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส แอคทีฟ (ชนิดเพื่อการออม) - SCBUSA(SSF)

- กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส เอ็นดีคิว (ชนิดเพื่อการออม) - SCBNDQ(SSF)

-กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส ดีเจไอ (ชนิดเพื่อการออม) – SCBDJI(SSF)

-กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรป (ชนิดเพื่อการออม) - SCBEUROPE(SSF) 

-กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Semiconductor (ชนิดเพื่อการออม)- SCBSEMI(SSF)

-กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Healthcare Innovation (ชนิดเพื่อการออม) -SCBIHEALTH(SSF)

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า จากภาพรวมเศรษกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อการลงทุนในในสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะในตราสารทุน นำโดยประเทศเศรษฐกิจหลัก เช่น สหรัฐฯ ยุโรป จะสามารถสร้างโอกาสจากการลงทุนระยะยาวได้  เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี 

อย่างไรก็ตาม ณ ไตรมาส 3 ปี 2564   กองทุน SSF มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิแล้ว 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากไตรมาสก่อนหน้า มีเงินไหลเข้าสุทธิ 1.7 พันล้านบาท รวมสะสม 9 เดือนที่ 3.9 พันล้านบาท

ทาง "มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ"  ประเมินว่า หากมีเงินไหลเข้าในไตรมาสสุดท้ายใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ระดับ 9 พันล้านบาท จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิรวมทั้งปีที่ราว 1.3 หมื่นล้านบาท หรือสูงกว่ายอดรวมปีที่แล้วราว 2-3 พันล้านบาท (นับเฉพาะส่วนของกองทุน SSF หรือตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563) ถือเป็นเม็ดเงินที่ค่อนข้างมากเลยทีเดียวสำหรับปีนี้ 

โดยกองทุนหุ้นไทย Equity Large-Cap มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 4.7% จากไตรมาสก่อนหน้าไปอยู่ที่ 1.0 หมื่นล้านบาท และยังคงเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าทรัพย์สินสูงสุดในหมวดกองทุนเพื่อการออม ในรอบไตรมาสล่าสุดมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิระดับ 300 ล้านบาทค่อนข้างใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน รวม 9 เดือนเป็นเงินไหลเข้าสุทธิ 700 กว่าล้านบาท หรือสูงเป็นอันดับ 3 ในรอบ 9 เดือน ทั้งนี้กองทุนกลุ่มนี้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 เดือนสูงสุดที่ 1.9%

แม้กองทุนต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบ แต่ยังมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าการลงทุนในประเทศ เช่นกลุ่ม Global Equity มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 11% ไปอยู่ที่เกือบ 6 พันล้านบาท จากเงินไหลเข้าสุทธิ 549 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากลุ่มอื่นในไตรมาสที่ผ่านมา รวม 9 เดือนไหลเข้าสุทธิ 1.4 พันล้านบาท

กองทุนหุ้นจีนมีเงินไหลเข้า 402 ล้านบาท เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสที่ 2 รวม 9 เดือนมีเงินไหลเข้าสุทธิสูงเป็นอันดับที่ 2 ด้วยมูลค่า 765 ล้านบาท ผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบถึง 13.8% อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนมองเป็นโอกาสการลงทุนระยะ 10 ปี