จับตาขุมทรัพย์ "มักกะสัน" อภิโปรเจคที่สุดของที่สุด "เจ้าสัวซีพี"
จับตาอภิโปรเจคที่สุดของที่สุด‘เจ้าสัวซีพี’บนที่ดินมักกะสัน 140 ไร่ สร้างปรากฏการณ์ทอล์คออฟเดอะทาวน์อย่างต่อเนื่องเริ่มตั้งแต่ขนาดมูลค่าการลงทุนทุบสถิติ “วัน แบ็งคอก”ของเจ้าสัวเจริญ!ตามมาด้วยซูเปอร์ทาวเวอร์สูง550 เมตร 120 ชั้นให้กลายเป็นแลนด์มาร์ค!
ย่านมักกะสันกำลังกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร หลัง บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร) ได้ลงนามในสัญญา กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2562 จุดเริ่มต้นการเข้าพื้นที่ก่อสร้างโครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง- สุวรรณภูมิ- อู่ตะเภา) ไปพร้อมกับการพัฒนาที่ดินในมักกะสัน ที่กลุ่มซีพีได้รับสิทธิพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส "เมืองอัจฉริยะ" มูลค่านับแสนล้านบาทภายในระยะเวลา 50 ปี
พื้นที่มักกะสันจึงถือเป็น “ขุมทรัพย์ใหม่” ของกลุ่มซีพี เนื่องจากที่ถือครองที่ดินมักกะสัน เนื้อที่ 140-150 ไร่ ซึ่งมีขนาดแปลงที่ดินที่ใหญ่กว่าอภิมหาโปรเจค “วัน แบ็งคอก” ของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี บนถนนพระราม 4 ซึ่งเช่าที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ บนถนนวิทยุ 104 ไร่ ตามแผนจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท พื้นที่รวม 1.83 ล้าน ตารางเมตร ประกอบไปด้วยพื้นที่รีเทลและไลฟ์สไตล์ โรงแรม คอนโดมิเนียม ซึ่งจะเปิดให้บริการเฟสแรกในปี 2566
สำหรับพื้นที่มักกะสัน ซี.พี. ใช้เม็ดเงินลงทุนราว 1.4 แสนล้านบาท คาดว่าหากแล้วเสร็จจะเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุด ในกรุงเทพมหานคร เฉพาะพื้นที่อาคารเกินกว่า 2 ล้านตารางเมตร คิดเป็นมูลค่าหลักแสนล้านบาท เน้นเชิงพาณิชยกรรม
โดยจะมีทุกสรรพสิ่งอยู่ในโครงการนี้ กล่าวคือ โรงแรม 2 สเกล เข้าไปอยู่ในโครงการทั้งโรงแรมระดับลักชัวรี หรือ อัพสเกล อย่างน้อย 2 ตึก นอกจากนี้ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน พื้นที่รีเทล เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และคอนโดมิเนียม (ลิสโฮลด์)ที่มีการออกแบบสเปชียล“แตกต่าง”จากบิ๊กโปรเจค “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ภายใต้ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ในเครือซีพี มุ่งสร้างโครงการเมืองเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี
ทั้งนี้ อภิโปรเจคมิกซ์ยูสของ “เจ้าสัวซีพี” บนที่ดินมักกะสัน 140 ไร่ โครงการนี้ สร้างปรากฏการณ์ทอล์คออฟเดอะทาวน์อย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ขนาดมูลค่าการลงทุนทุบสถิติ “วัน แบ็งคอก” ของเจ้าสัวเจริญ! ตามมาด้วย ความสูงของตึกสูงระฟ้าที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์ค!ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ล่าสุดมีกระแสข่าว แผนสร้าง “ซูเปอร์ทาวเวอร์-มักกะสันคอมเพล็ซ์” ตึกสูงที่สุดในไทยด้วยความสูง 550 เมตร 120 ชั้น พื้นที่ใช้สอยไม่ต่ำกว่า 1-2 ล้านตารางเมตร ปักหมุดเป็นศูนย์กลางชอปปิงระดับโลก มีสถานพยาบาลล้ำหน้าเรื่องนวัตกรรม และแหล่งรวมความบันเทิง ศูนย์กลางการประชุมระดับนานาชาติ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
อีกทั้งยังกันพื้นที่ให้เป็นพื้นที่สีเขียวไม่ต่ำกว่า 50 ไร่ ก่อสร้างทางเชื่อมจากทางสาธารณะเข้าโครงการบริเวณถนนอโศก ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเชื่อมไฮสปีด เจาะอุโมงค์เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีเพชรบุรีและสถานีไฮสปีด อีกด้วย !!
หากเป็นจริงตามนั้น หมายความว่า ตึกแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์แอท ไอคอนสยาม ที่มีความสูงถึง 317.95 เมตร 70 ชั้น กำลังจะโดนโค่นแชมป์ในอนาคตอย่างแน่นอน
แม้จะยังไม่เห็นมาสเตอร์แพลนด์ใหม่ล่าสุดหลังวิกฤติโควิด-19 ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไรนั้น เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ปลี่ยนไป หากแต่อภิโปรเจคมิกซ์ยูสมักกะสันของ “เจ้าสัวซีพี” ไล่ทำลายสถิติโครงการคู่แข่งไปแล้วหลายรายการ
นับเป็นโครงการที่ผู้คนเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิดในการทำลายหน้าประวัติศาสตร์ทางการลงทุนต่าง ๆ ในประเทศไทย ด้วย “จุดขาย” ที่สร้างปรากฏการณ์ทอล์คออฟเดอะทาวน์ในเรื่องของการเป็นที่สุดของที่สุด! อย่างต่อเนื่อง