อาจผันผวนจากเงินเฟ้อ แต่ไม่กระทบจิตวิทยาเก็งกำไรรายตัว
ตลาดอาจผันผวนจากเงินเฟ้อแต่ผลประกอบการและการเปิดเมืองยังหนุนภาพรวมการลงทุน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเอเชียเช้านี้ย่อตัว
หลังมีความเห็นจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวล ว่าเงินเฟ้ออาจสูงนานกว่าคาด ขณะที่ รมว.คลังสหรัฐฯ เจเน็ต เยลเลน มองเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับสูงถึงปีหน้า และคาดเงินเฟ้อจะกลับสู่ปกติในช่วงครึ่งหลังปี 2565 ภาพรวมการลงทุนอาจผันผวนระยะสั้นจากความกังวลปัญหาเงินเฟ้อ แต่ภาพรวมของการรายงานผลประกอบการที่ดี และการทยอยเปิดเมืองที่จะหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ยังช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลง และทำให้ภาพรวมการลงทุนยังสามารถเลือกเก็งกำไรรายตัว // สำหรับปัจจัยในประเทศ งบกลุ่มธนาคารโดยรวมถือว่าออกมาดีตามคาด ขณะที่สัปดาห์นี้ ติดตามการรายงานผลประกอบการของหุ้นใหญ่อย่าง SCGP, SCC และ PTTEP
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการ LTV หลังธปท.ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์โดยปรับลดระดับเงินดาวน์จาก 10-30% ลงเหลือ 0% จนถึงสิ้นปี 2565 เราประเมินอสังหาแนวสูงในระดับกลางค่อนบนจะได้รับประโยชน์เนื่องจาก 1) บ้านหลังแรกส่วนใหญ่ (53%) เป็นโครงการแนวร้าบ ขณะที่บ้านหลังที่ 3 มักจะเป็นคอนโดระดับ 1-5 ล้านบาท 2) ธนาคารน่าจะยังระมัดระวังความเสี่ยงของผู้กู้ ทำให้น่าจะยังเข้มงวดกับการปล่อยกลุ่มระดับล่าง (1-3 ล้านบาท) ขณะที่เงื่อนไขทางเศรษฐกิจกระทบกลุ่มลูกค้ากลาง-บน (3-7 ล้านบาท) น้อยกว่า 3) คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่มีของพร้อมขาย (ready to transfer) ซึ่งสำหรับหุ้นที่อยู่ในการวิเคราะห์ของเรา SPALI เป็นคนที่มีโอกาสได้ประโยชน์สูงสุด จากสินค้าคงเหลือในระดับ 2.8 เท่า ของยอดโอนเฉลี่ย 3 ปี (รองลงมาคือ QH, PSH, ORI, LPN, LH, AP ตามลำดับ) เรายังคงน้ำหนักลงทุนมากกว่าตลาด สำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยมีหุ้นเด่นคือ SPALI และ AP
ธีมการลงทุนระยะสั้น 1) กลุ่มโภคภัณฑ์ป้องกันเงินเฟ้อ PTTEP, PTTGC, IVL, TOP, BANPU 2) การเพิ่มเพดานหนี้เป็น 70% และแผนกู้เงินเพิ่ม จะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรขยับขึ้น ซึ่งบวกกับกลุ่มธนาคารและประกัน อาทิ BBL, KBANK, SCB, BLA, TIPH, THRE (แต่อาจต้องระวังการเคลมประกันโควิด) 3) หุ้นธีมเปิดเมืองยังน่าสนใจ CPN, CRC, MINT, CENTEL, ERW, BA 4) เรามองทยอยสะสม สื่อสาร สาธารณูปโภค ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART, GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW 5) เก็งกำไรทางเทคนิค RAM, BCH, CHG, TQM, SCGP, JTS, CPN, AMATA, SVI
ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวขึ้นทดสอบ 1,660-1,680 จุด โดยเป็นการสลับขึ้นลงของกลุ่มเปิดเมือง และกลุ่มอื่นๆ ช่วงสั้นโรงกลั่น ปิโตรเคมีเด่น ขณะอสังหาฯ ที่ได้ผลดีจากการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ได้แก่ SPALI, QH, PSH, ORI, LPN, LH, AP (ตามลำดับ) //หุ้นแนะนำ: TOP*, SCC*, SPALI*, EASTW*
แนวรับ: 1,627-1,639/ แนวต้าน : 1,650-1,660 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
แผ่นดินไหวไต้หวัน - เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริกเตอร์ ที่ทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน ขณะที่ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกมีการสั่งอพยพพนักงาน โดยสำนักงานใหญ่และฐานการผลิตหลักอยู่ที่ Hsinchu Science Park ซึ่งหากจากจุดเกิดแผ่นดินไหวที่ Yilan (อี๋หลาน) ราว 80 กม. จึงต้องติดตามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่?
ตลาดโลกบูมลุ้นราคาอ้อยพุ่งแตะ1,000– ราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกมีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาขึ้น เห็นได้จากราคาน้ำตาลส่งมอบล่วงหน้าเดือน มี.ค.66 อยู่ที่ 18.35 เซนต์ต่อปอนด์ และในช่วงปี 64 ราคาก็สูงขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากบราซิล ผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลทรายรายใหญ่สุดของโลกประสบปัญหาภาวะภัย
'ลีสซิ่ง' จี้สคบ.รื้อดอกเบี้ยคุมเช่าซื้อ 15% - "ลีสซิ่ง-แบงก์" ค้าน สคบ.คุมสัญญาเช่าซื้อรถชี้ตีกรอบเพดานดอกเบี้ย 15% ไม่สอดคล้องต้นทุนธุรกิจ บีบเรียกเงินดาวน์เพิ่ม 5-6 เท่า เสนอแยกตามประเภทรถ
ดันเพิ่ม 3 พื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษ - อพท.เตรียมหาทางผลักดันการจัดทำพื้นที่พิเศษเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง คือ พื้นที่คุ้งบางกะเจ้า พื้นที่จังหวัดเชียงราย และพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ประกาศไปแล้ว 6 พื้นที่
ประเด็นติดตาม: - 27 ต.ค. – TH industrial production เดือน ก.ย., US oil inventories / 28 ต.ค. – BOJ meeting, ECB meeting, US GDP 3Q21, US initial jobless claimes
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)