AAV การปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นทำให้แนวโน้มดูดีขี้น

AAV การปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นทำให้แนวโน้มดูดีขี้น

คณะกรรมการของ AAV อนุมัติแผนปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัท เพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาในการประชุมวันที่ 26 พฤศจิกายน

โดยเหตุผลสำคัญของแผนปรับโครงสร้างนี้มาจากปัญหาสภาพคล่องของบริษัท ซึ่งถูกกระทบจาก COVID-19 ซึ่งส่งผลอย่างรุนแรงต่Vอุตสาหกรรมการบินรวมถึงธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำด้วย ถึงแม้ว่า AAV จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับมือสถานการณ์โรคระบาดที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 แต่ก็ยังช่วยอะไรได้ไม่มากเมื่อรัฐบาลมีการบังคับใช้มาตรการคุมการเดินทาง ดังนั้น บริษัทจึงได้ทำแผนปรับโครงสร้างองค์กรและปรับโครงสร้างทุน (ในเดือนเมษายน 2564) พร้อมทั้งทำการเจรจากับนักลงทุนรายใหม่, ผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้ของทั้ง AAV และ Thai AirAsia ในหลาย ๆ โอกาส จนได้ข้อสรุปร่วมกันในที่สุด ซึ่งตามแผนล่าสุด บริษัทจะได้เม็ดเงินใหม่จากการเพิ่มทุนและการออกหุ้นกู้แปลงสภาพประมาณ 1.40 หมื่นล้านบาท (ขายหุ้นใหม่ 8,000 ล้านหุ้น มูลค่าพาร์ 0.10 บาท ที่ราคา 1.75 บาทต่อหุ้น) นอกจากนี้ บริษัทจะใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปซื้อหุ้นอีก 30.8% ของ Thai AirAsia (TAA) จากผู้ถือหุ้นรายอื่น (ผู้ขาย) อีก 3.9 พันล้านบาท พร้อมทั้งจะชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินอีก 3.9 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าธุรกรรมทั้งหมดจะดำเนินการเสร็จเรียบร้อยภายใน 1Q65 ทั้งนี้ บริษัทจะใช้สภาพคล่องส่วนเกิน 6.2 พันล้านบาทในการซื้อหุ้น TAA ซึ่งตามแผนทั้งหมด จะทำให้เกิด dilution กับผู้ถือหุ้น 62.3%

 

AAV จะรอดจากวิกฤตินี้

เรามองบวกกับแผนของบริษัท ซึ่งจะทำให้สถานะทางการเงินแข็งแกร่งมากขึ้นจากที่สัดส่วน DE สูงถึง 4.82x เมื่อสิ้นงวด 1H64 โดยบริษัทจะได้เม็ดเงินใหม่จากแผนนี้ 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้สัดส่วน DE ลดลงเหลือประมาณ 2x ภายในสิ้นปีนี้

 

คาดว่าธุรกิจโดยรวมจะกลับไปอยู่ระดับก่อน COVID ระบาดได้ภายในปี 2566

เราประเมินในเบื้องต้นว่าผลการดำเนินงานของ AAV ใน 3Q64 จะยังคงอ่อนแอ และแย่ลง QoQ โดยมีผลขาดทุนสุทธิ 1.7-1.8 พันล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดเผยสถิติการดำเนินงานที่สำคัญออกมาในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้เราทบทวนประมาณการ 3Q64 ใหม่อีกครั้ง สำหรับในช่วงต่อไป เราคาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมของ AAV จะฟื้นตัวได้ในอีกสองสามปีข้างหน้า จากผลกระทบของ COVID-19 ที่ลดลงตามการกลับมาเปิดประเทศไทยและประเทศที่เกี่ยวข้อง

 

Valuation & Action

เรายังคงประมาณการปี 2564-65F เอาไว้เท่าเดิม ทั้งนี้ จากแนวโน้มที่ดีขึ้นจากประเด็นการเปิดประเทศเราจึงยังคงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ใหม่ที่ 2.72 บาท (อิงจาก P/BV เฉลี่ยห้าปีย้อนหลัง) จากเดิมที่ 2.38 บาท (P/BV ที่ 0.7x เท่ากับ -0.5 S.D.)

 

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจถดถอย, ความไม่สงบทางการเมืองของไทย หรือ เกิดเหตุก่อการร้าย