สกพอ.จับมือ ออมสิน-EXIM BANK-บสย. เร่งเครื่องส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี
สกพอ.จับมือ 3 สถาบันการเงิน ออมสิน EXIM BANK บสย. เร่งเครื่องส่งเสริมการลงทุน พร้อมขับเคลื่อนบริการธุรกรรมทางการเงินครบทุกมิติ เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการทุกระดับในพื้นที่อีอีซี เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ ยกระดับความสามารถแข่งขัน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การส่งเสริมการลงทุนและบริการทางการเงินเพื่อพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยมีนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน นายรักษ์วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บสย. เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงาน สกพอ. และ 3 สถาบันทางการเงินดังกล่าวร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง วันที่ 27 ตุลาคม 2564
โดยความร่วมมือที่เกิดขึ้น ระหว่าง สกพอ. และ 3 สถาบันการเงินครั้งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการธุรกรรมทางการเงินประเภทต่างๆ รวมทั้งเทคโนโลยีทางการเงินที่ทันสมัยสนับสนุนแก่นักลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่จะมีบริการและเครื่องมือทางการเงิน สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินในพื้นที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น เพื่อเสริมสภาพคล่อง บรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ประสบผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เพิ่มขีดความสามารถและความมั่นคงทางธุรกิจ
พร้อมกันนี้ จะได้ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อการบริการด้านการเงิน การลงทุน การนำเข้า ส่งออก และการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อให้ตอบสนองความต้องการนักลงทุนได้ครอบคลุมทุกความต้องการมีความสะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการแข่งขัน และสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการในพื้นที่อีอีซีอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ความร่วมมือของ 3 สถาบันการเงินดังกล่าว ได้ผลักดันให้เกิดธุรกรรมทางการเงิน ที่จะเป็นเครื่องมือส่งเสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในพื้นที่อีอีซี ที่สำคัญ ๆ ได้แก่
ธนาคารออมสินให้บริการธุรกรรมทางการเงิน เช่น บริการ GSB Smooth Biz for EEC เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ให้แก่กลุ่มเป้าหมายนิติบุคคลซึ่งประกอบธุรกิจผลิต การให้บริการ การพาณิชย์ และกลุ่มธุรกิจที่มุ่งแก้ไขปัญหาสังคมหรือสิ่งแวดล้อมหรือ Social Enterprise ในพื้นที่อีอีซี วงเงินกู้ 1–20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2.99 % ต่อปี ระยะเวลาตามสัญญา1-10 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วง 2 ปีแรก และบริการสินเชื่อประชาชนสุขใจ สำหรับผู้ประกอบการภายในพื้นที่อีอีซี เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนประกอบธุรกิจ ทดแทนการใช้หนี้นอกระบบ ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มค้าขายหรือให้บริการรายย่อย ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อจำหน่าย วงเงินกู้ไม่เกิน2 แสนบาท อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน (Flat Rate) ระยะเวลาตามสัญญา 3-10 ปี
EXIM BANK ให้บริการธุรกรรมทางการเงิน เช่น สินเชื่อ EXIM EEC Plus เป็นวงเงินหมุนเวียนและเงินกู้ระยะยาว สำหรับผู้ประกอบการในทุกขนาดธุรกิจและทุกอุตสาหกรรมที่ต้องการลงทุนใน อีอีซีหรือต้องการปรับปรุงเครื่องจักรโรงงานระบบซอฟต์แวร์ดิจิทัล โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (S-curve) และอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2% ต่อปี วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 10 ปี เป้าหมายวงเงิน 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและภาคอุตสาหกรรมของไทยที่เชื่อมโยงกับการค้าระหว่างประเทศ ทำให้สินค้าและบริการของไทยแข่งขันในตลาดโลกได้ในระยะยาว
บสย.ให้บริการธุรกรรมทางการเงิน เช่น บริการ บสย. ค้ำประกันให้ลูกค้าในโครงการสินเชื่อ EXIM Biz Transformation Loan และบริการ บสย. ค้ำประกันให้ลูกค้าในโครงการสินเชื่อประชาสุขใจ สำหรับพื้นที่อีอีซี เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนประกอบธุรกิจ ทดแทนการกู้ยืมเงินนอกระบบ ทั้งนี้ บสย. ยังมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการค้ำประกัน
ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการให้มีค่าใช้จ่ายลดลงอีกด้วย และบสย. ยังมีโครงการให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการรายย่อยในการพัฒนาปรับปรุงธุรกิจ ช่วยแนะนำการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการก้าวข้ามผลกระทบในเวลานี้ และสามารถพัฒนากิจการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในระยะต่อไป