SCC ไตรมาส 3/64 กำไร 6,817 ล้านบาท ลดลง 60% จากไตรมาสก่อน
"ปูนซิเมนต์ไทย" แจ้งงบไตรมาส 3/64 กำไรสุทธิ 6,817 ล้านบาท ลดลง 60% จากไตรมาสก่อน เหตุมีรายการสำคัญ "ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์-ปรับมูลค่าเงินลงทุน"
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 131,825 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยหรือ 1% จากไตรมาสก่อน ท่ามกลางอุปสงค์ที่ลดลงจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 และจากมาตรการล็อกดาวน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลง 54% จากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 14,741 ล้านบาท SCC มีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 6,817 ล้านบาท ลดลง 60% จากไตรมาสก่อน จากไตรมาสนี้มีรายการสำคัญ (Key Items) โดยรวมขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของโรงงานซีเมนต์ในประเทศเมียนมา และกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนเป็นมูลค่ายุติธรรม
อย่างไรก็ตาม EBITDA จากการดำเนินงานปกติ (Normalized EBITDA) ที่ไม่รวมรายการสำคัญดังกล่าว ในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 จะอยู่ที่ 16,806 ล้านบาท ลดลง 48% จากไตรมาสก่อน จากเงินปันผลรับที่ลดลง และกำไรจากการดำเนินงานปกติ (Normalized Profit) จะเท่ากับ 9,066 ล้านบาท หรือลดลง 47% จากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 31% สาเหตุหลักจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น ขณะที่ EBITDA ลดลง 23% และกำไร สำหรับงวดลดลง 30% ทั้งนี้ EBITDA จากการดำเนินงานปกติจะลดลง15% จากราคา Naphtha ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และกำไรจากการดำเนินงานปกติจะลดลง 11% จากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการครั้งนี้สะท้อนความสามารถของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างในการขาย ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศมาตรการปิดไซต์งานก่อสร้างตลอดเดือน ก.ค.-ส.ค.2564 รวมถึงธุรกิจเคมิคอลส์ที่สามารถบริหารจัดการช่องทางการขาย ทำให้ปริมาณการขาย Polyolefin ในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 สูงที่สุด ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 และสภาวะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งนี้ EBITDA Margin จากการดำเนินงานปกติเท่ากับ 13% เทียบกับ EBITDA Margin อยู่ที่ 11%
ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเท่ากับ 387,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA เท่ากับ 70,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลการดำเนินงานของธุรกิจเคมิคอลส์ที่ดีขึ้น กำไรสำหรับงวด 38.867 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากส่วนต่างราคาของสินค้าเคมีภัณฑ์และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น
ในช่วง 9 เดือนของปี 2564 ธุรกิจแพคเกจจิ้งมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 89,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน EBITDA เท่ากับ 15,755 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 6,179 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA Margin คงที่เท่ากับ 18% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในช่วง 9 เดือนของปี 2564 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม เท่ากับ 15,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,304 ล้านบาท หรือ 155% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจเคมิคอลส์คิดเป็น 64% ของทั้งหมด หรือเท่ากับ 9,862 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,059 ล้านบาท ขณะที่มีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจากธุรกิจอื่นเท่ากับ 5,433 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36% ของทั้งหมด เพิ่มขึ้น 2,245 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
SCC มีเงินปันผลรับในช่วง 9 เดือนของปี 2564 เท่ากับ 7,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,900 ล้านบาท หรือ 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่น โดยบริษัทฯ มีเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม (ถือหุ้น 20-50%) เท่ากับ 5,915 ล้านบาท และจากบริษัทอื่น (ถือหุ้นต่ำกว่า 20%) เท่ากับ 1,548 ล้านบาท
บริษัทฯ ยังคงมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง โดยมีเงินสดและเงินสดภายใต้การบริหาร ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2564 เท่ากับ 69,537 ล้านบาท ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี 2563 อยู่ที่ 107,150 ล้านบาท นอกจากนี้ SCC ยังมีเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ 99,156 ล้นบาท เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน โดยมีอัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือต่อต้นทุนขายเท่ากับ 63 วัน เทียบกับ 57 วันในไตรมาสก่อน (ไตรมาสที่ 2 ปี 2564)