“ซิตี้แบงก์” เจาะเทรนด์การลงทุนเติบโตตามกลุ่มมิลเลนเนียล
“ซิตี้แบงก์” เจาะกลุ่มนักลงทุนที่สนใจธุรกิจเป้าหมายกลุ่มมิลเลนเนียล ล่าสุด เปิดขาย “KFGMIL : กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลมิลเลนเนียลอิควิตี้” กองทุนเปิดทางเลือกรับการเติบโตเมกะเทรนด์
นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ซิตี้แบงก์ ผู้ให้บริการด้านบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ในชื่อ “ซิตี้โกลด์” (Citigold) ประกอบไปด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน เพื่อตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในทุกสถานการณ์เพื่อประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุด
ล่าสุดพร้อมนำเสนอ “กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลมิลเลนเนียลอิควิตี้” (Krungsri Global Millennials Equity Fund (KFGMIL) ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก Goldman Sachs Global Millennials Equity Portfolio ที่จะมาตอบโจทย์ลูกค้าซิตี้โกลด์ที่มีความสนใจการลงทุนที่เน้นธีมการลงทุนที่ผสมผสานมุมมองด้านการบริโภค ไลฟ์สไตล์ และความสนใจของกลุ่มมิลเลนเนียล เพื่อหาโอกาสการลงทุนจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น โซเชียลมีเดีย อีคอมเมิร์ซ สื่อบันเทิงและเกม ฟินเทค การเดินทาง ฯลฯ รวมถึงด้านไลฟ์สไตล์และความสนใจของกลุ่มคนมิลเลนเนียมที่มีความต้องการมีชีวิตที่ยั่งยืน มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ชอบความความหรูหรา ตลอดจนการสร้างประสบการณ์ในชีวิตในด้านต่าง ๆ ฯลฯ เป็นต้น
ปัจจุบันภาคธุรกิจต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญและการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับคนรุ่นใหม่หรือที่เรียกกันว่า “มิลเลนเนียล” (Millennials) กันมากขึ้น เนื่องจากจำนวนคนมิลเลนเนียลมีประมาณ 2.3 พันล้านคนทั่วโลก ถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกจากฐานประชากรขนาดใหญ่ รวมถึงกำลังซื้อที่แข็งแกร่งจากฐานรายได้ที่กำลังเติบโต นอกจากนี้คนมิลเลนเนียลยังเป็นผู้นำเทรนด์ต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการปรับพฤติกรรมของคนรุ่นอื่น ๆ ในขณะที่รูปแบบพฤติกรรมการใช้จ่ายและมุมมองการใช้ชีวิตที่แตกต่างของคนมิลเลนเนียลยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายธุรกิจ รวมถึงความสนใจในสิ่งต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามอายุของคนมิลเลนเนียลยังก่อให้เกิดโอกาสลงทุนระยะยาวไปพร้อมกับการเติบโตของคนกลุ่มนี้อีกด้วย ซึ่ง
จากข้อมูลพบว่ากลุ่มคนมิลเลนเนียลให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อสร้างประสบการณ์ชีวิตมากกว่าการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ โดยคนมิลเลนเนียลส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงเฉลี่ยต่อเดือนราว 164 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,400 บาท และมีค่าใช้จ่ายด้านฟิตเนสอยู่ที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,300 บาท ในขณะที่ตลาดสินค้าหรูหราถูกขับเคลื่อนด้วยกลุ่มมิลเลนเนียลอยู่ที่ 40% พร้อมคาดการณ์การเติบโตของตลาดสินค้าดังกล่าวในกลุ่มมิลเลนเนียล และ Gen Z จะอยู่ที่ราว 130% (ที่มา: BCG ปี 2560 และ McKinsey ปี 2559)
อย่างไรก็ตามซิตี้โกลด์ยังนำเสนอการบริหารความมั่งคั่งในการกระจายการลงทุนได้ทั่วโลกกว่า 200 กองทุน จากพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่หลากหลายกับ 5 บลจ.ในประเทศ และ 12 บลจ.ต่างประเทศ โดยมีความหลากหลายของกองทุนทั้งประเภทของสินทรัพย์ และภูมิภาคของการลงทุน ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี
ตลอดจนการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าซิตี้โกลด์ โดยมีบริการผู้ดูแลบัญชีที่พร้อมให้บริการคำแนะนำและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ การลงทุนให้กับลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ พร้อมทั้งให้การบริหารความมั่งคั่งสะดวกในทุกโอกาสผ่านซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน ให้ลูกค้าซิตี้โกลดสามารถทำการซื้อ-ขายกองทุนได้ด้วยตัวเอง การตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพอร์ทการลงทุน การโอนเงินผ่านทางพร้อมเพย์ไปยังต่างธนาคาร หรือโอนเงินไปยังบัญชีต่างประเทศได้ง่าย ๆ รวมถึงสามารถเปิดบัญชีสกุลเงินต่างประเทศได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
โดยมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจเปิดบัญชีซิตี้แบงก์ โดยมีสิทธิพิเศษมากถึง 3 ต่อ สูงสุด 310,000 บาท* ต่อที่ 1 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10,000 บาทเมื่อเพิ่มเงินใหม่ในบัญชีเงินธนาคารซิตี้แบงก์ ต่อที่ 2 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 150,000 บาท หรือเทียบเท่า 0.10% ของยอดเงินลงทุนเมื่อลงทุนเพิ่มด้วยเม็ดเงินใหม่ ต่อที่ 3 รับเครดิตเงินคืนค่าธรรมเนียมการซื้อ 5% หรือสูงสุด 150,000 บาท เมื่อมียอดซื้อกองทุนรวมที่ร่วมรายการขั้นต่ำรวม 100,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564