ธ.ก.ส.ได้รับการจัดอันดับเครดิตเรทติ้งสูงสุดต่อเนื่อง 8 ปี
ฟิทช์ เรทติ้งส์ คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ธ.ก.ส. ที่ระดับสูงสุด AAA(tha) แนวโน้มอันดับเครดิต Stable และระยะสั้นที่ F1+(tha) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มั่นคง และมีเสถียรภาพ
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศผลการจัดอันดับเครดิตของ ธ.ก.ส. โดยคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอยู่ที่ระดับ 'AAA(tha)' แสดงถึงความน่าเชื่อถือสูงสุดและความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้ต่ำสุด แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ระดับ 'F1+(tha)' ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถสูงสุดในการชำระคืนเงินกู้ตามกำหนดและความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำที่สุด และมีสภาพคล่องแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 โดยเป็นอันดับเครดิตที่สูงสุดสำหรับการจัดอันดับเครดิตในประเทศ
ในการจัดอันดับเครดิตของ ธ.ก.ส. นั้น ฟิทช์เรทติ้งส์ระบุว่า ด้วยสถานะทางกฎหมายของ ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการ รวมทั้ง บริหารงานร่วมกับคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี จึงมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนพิเศษ
นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปกติแก่ ธ.ก.ส. อย่างทันท่วงทีในกรณีที่มีความจำเป็น อาทิ การเพิ่มทุนและการค้ำประกันเงินกู้ยืม เป็นต้น นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังได้รับการชดเชยทางการเงินจากการสนับสนุนโครงการและนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในการสนับสนุนนโยบายรัฐที่มีความเกี่ยวข้องกับภาคเกษตรและการพัฒนาชนบท
อีกทั้งในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ธ.ก.ส. ได้ช่วยสนับสนุนภาคเกษตรกรรม เช่น การกระจายเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลให้กับเกษตรกร รวมทั้ง การผ่อนปรนการชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ย และออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ๆ ที่เหมาะสมให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการภาคเกษตร ซึ่งการจัดอันดับเครดิตนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงเสถียรภาพทางเครดิตและประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการองค์กรที่ดีในการจัดการทางการเงิน และขับเคลื่อนภารกิจเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการสนับสนุนทางการเงิน และเป็นสถาบันการเงินที่มีบทบาทหลักในการพัฒนาภาคเกษตรของไทยอย่างยั่งยืนต่อไป