เปิด ‘ต้นตอ’ ยอดโควิดชายแดนใต้พุ่งสูง

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะอำเภอจะนะจังหวัดสงขลา ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่าในขณะที่หลายจังหวัดนับถอยหลังสู่การเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายนแต่สำหรับในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ประชาชนนับถอยหลังสิ้นเดือนตุลาคมนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงหรือไม่ หลังจากที่จังหวัดชายแดนใต้ได้รับโควต้าวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1,000,000 โดสเพื่อฉีดอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ครอบคลุม 70%ของประชากร

โดยนพ.สุภัทร บอกว่า การเร่งฉีดวัคซีนอุปสรรคสำคัญคือจำนวนบุคลากรที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากหน้างานของทีมแพทย์นั้นไม่ได้มีเฉพาะการฉีดวัคซีนแต่มีการให้บริการอย่างอื่นด้วยส่งผลทำให้ศักยภาพการฉีดวัคซีนในแต่ละพื้นที่นั้นแตกต่างกัน เช่น จังหวัดสงขลาฉีดได้25,000- 30,000 โดสต่อวัน ในขณะที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และจังหวัดนราธิวาสฉีดได้เพียง 10,000 โดสต่อวันเท่านั้น ในขณะที่การระบาดเกิดขึ้นในวงกว้าง

อีกทั้งข้อแตกต่างในการเข้ารับการฉีดวัคซีนสำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความแตกต่างที่ต้องอาศัยความเข้าใจในการอธิบายให้กับประชาชน โดยรูปแบบการฉีดวัคซีนเพื่อให้เข้าถึงชุมชนอย่างแท้จริงคือทีมแพทย์ต้องเดินเท้าเข้าชุมชนเท่านั้นเพื่อให้ทันในการควบคุมสถานการณ์

นพ.สุภัทร กล่าวถึงพฤติกรรมการติดเชื้อในจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในครอบครัวหลายพื้นที่มีการติดเชื้อแบบยกบ้าน และบางแห่งติดเชื้อยกชุมชน ซึ่งลักษณะดังกล่าวส่งผลทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไต่ระดับขึ้นลงไปอีกอย่างน้อย4สัปดาห์ และจากปัจจัยต่างๆสิ่งที่น่ากังวลใจที่แนะนำให้ศบค.สวนหน้าเร่งดำเนินการคือเร่งควบคุมสถานการณ์ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชอย่าให้ซ้ำรอยกับชายแดนภาคใต้ที่วัคซีนมาช้าเกินไป