ผ่าเกม “อินทนิล X ชาตรามือ” สู้ศึกตลาดกาแฟนอกบ้านเดือด!!
ตลาดกาแฟนอกบ้านไม่เคยผ่อนแรง บิ๊กแบรนด์ตบเท้าติดอาวุธการตลาด ขยายฐานลูกค้า เกณฑ์คอคาเฟอีนเป็นสาวก ล่าสุด “อินทนิล X ชาตรามือ” เตรียมคิกออฟ 1 พ.ย. ปลุกสีสันเครื่องดื่มชา-กาแฟโค้งสุดท้ายปี กระตุ้นยอดขายโต
การบริโภคกาแฟนอกบ้าน ถือเป็นไลฟ์สไตล์ที่มาแรงหลายปีแล้ว ทำให้ธุรกิจร้านกาแฟเบ่งบานอย่างมาก มูลค่าตลาดกาแฟรวมอยู่ที่ระดับ 60,000 ล้านบาท การบริโภคกาแฟในบ้านมีส่วนแบ่งราว 33,000 ล้านบาท ที่เหลือราว 27,000 ล้านบาท เป็นการบริโภคกาแฟนอกบ้าน
ขณะที่กลยุทธ์การตลาดด้านความร่วมมือ(Collaboration : X) ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะการดำเนินธุรกิจยุคนี้ โตเดี่ยวลำบาก จึงเห็นการผนึกกำลังข้ามสายพันธ์ แปลงศัตรูเป็นพันธมิตร หรือเปลี่ยน “คู่แข่ง” ให้เป็น “คู่ค้า” เพื่อสร้างการเติบโตด้วยกัน win-win
เมื่อตลาดกาแฟนอกบ้านเต็มไปยักษ์ใหญ่ที่ขับเคี่ยวกันดุเดือด แบรนด์ดังระดับโลก(Global brand)และแบรนด์ท้องถิ่นไทย(Local Brand) ตบเท้าระเบิดศึกสู้กันอย่างเมามัน ไม่ว่าจะเป็น สตาร์บัคส์ ดีน แอนด์ เดลูก้า อาราบิก้า(%Arabica) คาเฟ่ อเมซอน อินทนิล ทรู คอฟฟี่ เป็นต้น เรียกว่ามีเซ็กเมนต์ตั้งแต่ทั่วไป(Mass) รถเข็นริมทาง ไปถึงพรีเมี่ยม การทำตลาดจึงมีหลากหลายกลยุทธ์ทั้งลุยเดี่ยว ผนึกพาร์ทเนอร์เพื่อสร้างปรากฎการณ์ เติมสีสัน ปลุกกำลังซื้อผู้บริโภค
Cr. K sme analysis
ในตลาดกาแฟนอกบ้าน หรือคาเฟ่ต่างๆ หากพูดถึงแบรนด์แกร่ง “สตาร์บัคส์” แต่ที่ผงาดและยึดตลาดในวงกว้างต้องยกให้ “คาเฟ่ อมเซอน” ของค่ายพลังงานแห่งชาติ “ปตท.” ที่นอกจากแบรนด์ดังโดดเด่น ยังมีทั้งเงินทุนหนาสามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วทั้งลงทุนเองและขยายผ่านแฟรนไชส์
ล่าสุด การขยับตัวของผู้ประกอบการร้านกาแฟอย่าง “อินทนิล” ของค่ายพลังงาน “บางจาก” กำลังสร้างปรากฏการณ์ ความคึกคักให้กับผู้บริโภคด้วยการผนึกกับ “ชาตรามือ” ในการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มใหม่ๆตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
“ชาตรามือ” หนึ่งในแบรนด์เก่าแก่ระดับตำนานของไทย เพราะอยู่ในตลาดมานานถึง 76 ปี แต่ความบูม แบรนด์ปังต้องยกให้ช่วง 10 ปีให้หลัง ที่ไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ “จีน” เข้ามาเยือนจุดหมายปลายทางของไทยจำนวนมาก และชาตรามือ ก็มีสินค้าที่ถูกอกถูกใจกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวอย่างมาก ส่วนสาวกชาวไทยก็ชื่นชอบไม่แพ้กัน เมนูโด่งดังมีทั้งชากุหลาบ ชาไทย ไปจนถึงไอศกรีม เป็นต้น
ทว่า ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาดที่ผ่านมา ฉุดธุรกิจนักท่องเที่ยวให้ดิ่ง ฐานลูกค้าชาวต่างชาติที่บริโภคชาตรามือก็หายไปไม่น้อย ร้านที่เคยอยู่ในห้างค้าปลีก ทำเลทองใจกลางเมืองต้องปิดตัวไปตามสถานการณ์ ดังนั้น แบรนด์ต้องปรับตัวเพื่อสร้างการอยู่รอด หาหนทางสร้างการเติบโตต่อไป
การจับมือกับ “อินทนิล” ไม่เพียงนำเมนูเครื่องดื่มเด็ดไปเสิร์ฟผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย แต่ยังขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นผ่านฐานแฟนของ “อินทนิล” ด้วย
สำหรับ ชาตรามือ X อินทนิล จะคิกออฟวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยทั้ง 2 แบรนด์ยังไม่เปิดเผยเมนู แต่มีผู้บริโภค ฐานแฟนคลับได้คาดเดามากมาย เช่น กาแฟกุหลาบ, โกโก้ปั่น เมนูเด็ดของทั้ง 2 แบรนด์ ชาไทย โก้โก้กุหลาบ เป็นต้น สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการ “ลอง” เมนูใหม่ ยิงกว่านั้นก่อนเปิดตัวแฟนๆเข้าไปสร้าง Engagement ร่วมกับแบรนด์กันอย่างคึกคัก
ส่วนแบรนด์ “อินทนิล” รวมพลังพันธมิตรครั้งนี้ จะได้ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เพราะชาตรามือมีกลุ่มเป้าหมาย Mass กว่า เจาะผู้บริโภควงกว้างกว่า มีร้านนับร้อยกระจายอยู่ทั่วประเทศ จึงมีส่วนช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ให้แก่กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังถือเป็นการ “ติดอาวุธ” ให้กับ “อินทนิล” เพื่อสู้ศึกในธุรกิจร้านกาแฟนอกบ้านมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมด้วย เนื่องจากปัจจุบัน “อินทนิล” ยังมีร้านกาแฟกว่า 600 สาขาเท่านั้น หากจะต่อกรกับ “คาเฟ่ อมเซอน” ที่แตกไลน์จากค่ายพลังงานเหมือนกัน และมีร้านกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ จะต้องระดมสรรพกำลัง และกลยุทธ์อีกมาก เพื่อขับเคี่ยวกันให้สมน้ำสมเนื้อ
อย่างไรก็ตาม ชาตรามือ X อินทนิล ครั้งนี้จะสร้างความปังปุริเย่ ได้ใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายแค่ไหน อีกไม่กี่อึดใจได้รู้กระแส และเสียงตอบรับกัน แต่ในมิติการตลาด นี่คือกลยุทธ์ 1+1 ที่ต้องได้มากกว่า 2 อย่างแน่นอน