คีรีมายาทุ่ม 2,000 ล้านบาทผุดที่พักอัลตร้า ลักชัวรี
คีรีมายา เดินหน้าจับเทรนด์สุขภาพ แบ่งพื้นที่ 300 ไร่ จาก 1,200 ไร่ พัฒนาที่อยู่อาศัย โรงแรมสู่โปรเจกต์อัลตร้า ลักชัวรี เจาะเศรษฐีรักสุขภาพชาวเอเชีย ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ คาด 2 ปี เปิดให้บริการ
นายกิตติ ธนากิจอํานวย ประธานบริษัท คีรีมายา จํากัด เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนพัฒนาที่ดินราว 300 ไร่ ภายในโครงการคีรีมายา ให้เป็นที่พักอาศัยระดับอัลตร้า ลักชัวรี มูลค่าโครงการเกือบ 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายเบบี้บูมเมอร์ และเจเนอเรชั่นรองลงมาที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่จะโฟกัสเป็นชาวต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบ และต้องการมาพำนักอาศัยในประเทศไทย
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวจะเป็นที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพหรือเวลเนส ผสานกับธรรมชาติอย่างลงตัวด้วย ซึ่งขณะนี้รายละเอียดของโครงการอยู่ระหว่างการออกแบบ และคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้าง แล้วเสร็จเป็นรูปร่างภายใน 2 ปี
สำหรับการนิยามที่พักระดับอัลตร้า ลักชัวรี ของโครงการครั้งนี้ บริษัทจะนำนวัตกรรม เทคโนโลยีด้านสุขภาพเข้ามาอยู่ภายในห้องพักลงลึกถึงระดับนาโน การนอนหลับพักผ่อน อุณหภูมิ ความชื้นที่เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย รวมถึงเหมาะสมกับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่อยู่ภายในห้องพัก เป็นต้น
“หลังจากธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ที่พักได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคโควิด-19 ระบาด ภารกิจสำคัญที่บริษัทต้องทำมี 2 ประการ ได้แก่ การเดินหน้านำเสนอสิ่งดีๆ ที่ประเทศไทย มีเพื่อทำให้เขาใหญ่เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น ให้เป็นที่ยอมรับในตลาด เหมือนกับที่บริษัทสร้างคีรีมายา ปรากฏการณ์ที่พักระดับ 5-6 ดาวให้เขาใหญ่เมื่อ 20 ปีก่อน เราต้องพัฒนาจุดนี้ต่อไปไม่หยุด อีกประการจะพัฒนาโครงการที่พักอาศัยภายใต้แนวคิดอัลตร้า ลักชัวรี และอยู่กับสิ่งแวดล้อมเป็นมิตรขั้นสุด เพื่อตอบโจทย์ด้านสุขภาพ ซึ่งโครงการนี้จะเห็นภายใน 2 ปี”
ทั้งนี้ ระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่เผชิญโรคระบาด บริษัทถือว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากโครงการที่พักอาศัย โรงแรมอยู่ในเขาใหญ่เป็นหลัก ซึ่งเจาะกลุ่มนักเดินทางภายในประเทศอยู่แล้วเมื่อเทียบกับจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่เป็นทะเล อย่างภูเก็ต หรือพื้นที่อื่น ซึ่งพึ่งพานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งกลุ่มสหรัฐ สแกนดิเนเวีย มาสู่รัสเซีย และจีน ซึ่งถือเป็นกลุ่มใหญ่มาก จึงมีผลต่อการฟื้นตัวค่อนข้างช้า มองว่าอาจต้องใชเวลาประมาณ 2 ปี จึงจะกลับมาเหมือนเดิม ขณะที่เขาใหญ่ การฟื้นตัวจะเห็นในช่วงไฮซีซั่นนี้
นอกจากนี้ โครงการเที่ยวด้วยกัน ยังกระตุ้นให้ผู้บริโภคเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น เนื่องจากสามารถจองห้องพักและจ่ายในอัตราที่ต่ำลง จึงมีลูกค้าให้การตอบรับดีมาก ปัจจุบันบริษัทมีโรงแรม ที่พักอาศัยทั้งสิ้น 3 โครงการ ได้แก่ คีรีมายา อัตตา มุติมายา มีห้องพักราว 400 ห้อง หากแยกย่อยอัตตา ซึ่งเป็นห้องสวีท และมี 2 ห้อง ทำให้การเข้าพักเเฉลี่ยเป็นครอบครัว จึงสามารถรวมห้องพักเป็น 600 ห้อง โดยรวมอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 70-80% และวันหยุดความต้องการของลูกค้าเกินกว่าจำนวนห้องพักด้วย
“2 เดือนสุดท้าย หลังจากการเปิดประเทศ มองว่าธุรกิจจะปรับตัวดี เนื่องจากบริษัทมีโรงแรม ที่พักอาศัยในเขาใหญ่ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เว้นจากตอนปิดเมืองทั่วประเทศ ประกอบกับมีโครงการเที่ยวด้วยกันเป็นตัวช่วยทำให้ราคาห้องพักลดลง นักท่องเที่ยวจึงต้องการเข้ามาพักจำนวนมาก”
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์