ททท.ยึดเวที WTM ประกาศ “เปิดประเทศ” พลิกโฉมท่องเที่ยวไทยปี 65
“ททท.” ยึดเวที “เวิลด์ ทราเวล มาร์เก็ต” (WTM 2021) ประกาศ “เปิดประเทศ” กระตุ้นการท่องเที่ยวกลุ่มตลาดสหราชอาณาจักร ชูแนวคิด “Visit Thailand Year 2022, Amazing New Chapters” พลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยปี 2565
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าร่วมงาน "เวิลด์ ทราเวล มาร์เก็ต" (World Travel Market : WTM 2021) เป็นครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 1 - 3 พฤศจิกายน 2564 ผนึกกำลังผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย ร่วมเดินหน้าพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยปี 2565 ชูแนวคิด Visit Thailand Year 2022, Amazing New Chapters ตอกย้ำคุณค่าการท่องเที่ยว ที่โดดเด่นให้ประเทศไทยเป็น Preferred Destination ณ Excel London กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
งาน World Travel Market (WTM) ถือเป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในตลาดนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร เป็นครั้งที่ 40 ที่ประเทศไทยเข้าร่วมงาน โดยกำหนดจัดงานในวันที่ 1 - 3 พฤศจิกายน 2564 ในรูปแบบ Live Event และวันที่ 8 - 9 พฤศจิกายน 2564 ในรูปแบบ Virtual Event
โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดคูหาประเทศไทยในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ประกอบด้วย ธุรกิจโรงแรม ได้แก่ Centara Hotels and Resorts, Dusit Hotels & Resorts, Minor Hotels, The Standard Hotels และ Wattana Hotel Marketing Consultant บริษัทนำเที่ยว ได้แก่ Asia Exotica, Destination Asia Thailand, Travel Thailand Diethelm, Discova และ Easia Travel และธุรกิจตัวแทนการท่องเที่ยว ได้แก่ Elephant Reps, SALT Representation และ The MC Collection เข้าร่วมงานเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวไทย ในฐานะผู้ขาย (Exhibitor / Seller) และพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการนำเที่ยวในฐานะผู้ซื้อ (Buyer/ Trade Visitor)
ทั้งนี้ ภายในงาน ททท. ได้หารือร่วมกับพันธมิตร สายการบิน British Airways และ TUI เพื่อร่วมกันกำหนดเจตนารมย์และวิสัยทัศน์ในแผนธุรกิจ การลงทุน และประชาสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของประเทศไทย
สำหรับ World Travel Market 2021 ททท. นำเสนอการเตรียมพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยสู่มิติใหม่ให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว Visit Thailand Year 2022 ภายใต้แนวคิด Amazing New Chapters โดยวางกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการสร้างคุณค่าและประสบการณ์การท่องเที่ยวมิติใหม่จากสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์
เริ่มจากปลุกประสาทสัมผัสทั้งห้าด้วยการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy) และการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ กำลังซื้อสูง ควบคู่กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (Responsible Tourism) ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ BCG model ให้การเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 เป็นการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย ประทับใจและแตกต่าง ทั้งขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่สมดุลใหม่ที่แข็งแรงและยั่งยืน
ในโอกาสนี้ ททท. ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเข้าร่วมงาน Amazing Thailand : The Royal Dinner ในช่วงค่ำของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 โดยพระราชทานพระดำรัส สร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประกอบการ รวมถึงหน่วยงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้มองเห็นโอกาสในวิกฤต สร้างมุมมองใหม่ และร่วมกันฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย เป็นเจ้าบ้านที่ดีในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) อย่างยั่งยืน ทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นและเชิญชวนชาวต่างชาติให้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยภายหลังจากการเปิดประเทศในรอบ 19 เดือนที่จะเต็มไปด้วยรอยยิ้มของคนไทย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น
ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2564 ประเทศไทยได้ต้อนรับผู้มาเยือนจากต่างประเทศจำนวน 85,845 คน ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ วีซ่าพิเศษเพื่อท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสมาชิกสิทธิพิเศษ Thailand Privilege Card กลุ่มสุขภาพที่เข้ามารับบริการทางการแพทย์ และโครงการเปิดพื้นที่นำร่องเพื่อการท่องเที่ยว (Sandbox) และมีนักท่องเที่ยวภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - ตุลาคม 2564 รวมทั้งสิ้น 60,649 คน ซึ่งประเทศที่มีนักท่องเที่ยวสะสมสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส
นอกจากนี้ โครงการ Thailand Reopening ได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งกำหนดมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร 3 รูปแบบ ได้แก่ Exemption from Quarantine (Test & Go) ยกเว้นการกักตัวสำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบตามเกณฑ์และเดินทางจากประเทศหรือพื้นที่ที่กำหนด 63 ประเทศ, Living in the Blue Zone พื้นที่สีฟ้า 17 จังหวัด (Sandbox) และ Alternative Quarantine : AQ (Happy Quarantine ทั่วไทย) สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tatnews.org
ทั้งนี้ ททท. คาดว่า ช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2564 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเดือนละประมาณ 300,000 คน ผนวกกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาก่อนหน้านี้ของปี 2564 คาดว่าจะมีจำนวนรวมอยู่ที่ 700,000 คน ภายในสิ้นปี 2564
ตลาดยุโรปนั้นเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ตลาดสหราชอาณาจักรมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากตลาดรัสเซีย และในขณะนี้มีรายงานจากสายการบินหลายรายเสนอเที่ยวบินตรงที่มีความจุที่นั่งผู้โดยสารจำนวนมากมายังประเทศไทยจากยุโรปและสหราชอาณาจักร สะท้อนสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัว
ทั้งนี้ ททท. คาดการณ์สถานการณ์การท่องเที่ยวปี 2565 กรณีสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดี (Base Scenario) ตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดอยู่ที่ 1.58 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8.18 แสนล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทย 7.71 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับปัจจัยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การบริหารจัดการสถานการณ์ และภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในประเทศและทั่วโลกด้วย