LPN ผลประกอบการ 3Q64: น่าผิดหวัง (5 พ.ย. 64)
ผลประกอบการใน 4Q64F มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ โมเมนตั้มของยอดขายได้เริ่มปรับตัวดีขึ้นแล้วในเดือนตุลาคม 2564 โดยเฉพาะโครงการแนวราบ
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะยังคงใช้กลยุทธ์เน้นระบายสต็อกเก่าที่ยังค้างอยู่อย่างต่อเนื่องไปจนถึง 1H65F ซึ่งอาจเป็นปัจจัยลบที่กดดันการฟื้นตัวของอัตรากำไร นอกจากนี้ แผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่สี่โครงการยังถูกเลื่อนจาก 4Q64F ไปเป็นปี 2565F ซึ่งจะทำให้ยอดเปิดโครงการใหม่ในปี 2564F อยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท (-42% YoY) จากเป้าเดิมที่ 8.5 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY)
กำไรปกติลดลง 77% YoY และ 81% QoQ
หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติของ LPN ใน 3Q64 ออกมาน่าผิดหวังที่ 23 ล้านบาท (-77% YoY, - 81% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ในตลาด 69% และต่ำกว่าประมาณการของเรา 67% เนื่องจากยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมต่ำกว่าที่คาดไว้ 13% และอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่คาดไว้ 3.6ppts
ทางด้านยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยอ่อนแออยู่ที่ 814 ล้านบาท (-19% YoY, -17% QoQ) แบ่งเป็น i) ยอดโอนโครงการแนวราบ 247 ล้านบาท (-11% YoY, -45% QoQ) และ ii) ยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียม 567 ล้านบาท (-22% YoY, +7% QoQ) ทั้งนี้ ไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่พร้อมโอนใน 3Q64F ในขณะที่มีอุปสรรคหลายด้านที่กดดันยอดโอน อย่างเช่น การปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม 2564 นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นยังต่ำสุดในรอบหลายปีที่ 20.9% (-6.5ppts YoY, -4.8ppts QoQ) เนื่องจากมีการอัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างหนักในช่วงที่ภาวะตลาดอ่อนแอ
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2564-65F ลง 29%/6%
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-65F ลงจากเดิม 29%/6% เพื่อสะท้อนถึง i) อัตราการโอนที่ช้าลงของโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้ว ii) อัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าสมมติฐานเดิมของเรา
Valuation & action
เนื่องจาก ราคาหุ้น สะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรในปีหน้าไปแล้ว ในขณะที่เรายังเป็นกังวลกับbacklog ที่อยู่ในระดับต่ำ (Figure 7-8) เราจึงยังคงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 4.90 บาท อิงจาก P/E ปี 2565F ที่ 9.1x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -0.5 S.D.
Risks
ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง