GPSC ไตรมาส 3/64 กำไร 1,875 ล้านบาท ลดลง 19% จากปีก่อน
GPSC แจ้งงบไตรมาส 3/64 คว้ากำไร 1,875 ล้านบาท ลดลง 19% จากปีก่อน และลดลง 27% จากไตรมาสก่อน จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติ-ถ่านหินเพิ่มขึ้น
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 มีจำนวน 1,875 ล้านบาท ลดลง 699 ล้านบาท หรือร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับ ไตรมาสที่ 3 ปี 2563 โดยมีสาเหตุหลักจากกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ลดลง เนื่องจากต้นทุนราคาก๊ชธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับโรงไฟฟ้าโกลว์ พลังงาน ระยะที่ 5 ได้หยุดเดินเครื่องนอกแผนงาน ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.2564 แม้ว่าปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำจะสูงขึ้นก็ตาม และกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) ลดลง เนื่องจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่วันมีการหยุดซ่อมบำรุง 28 วัน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีเพิ่มขึ้น จากปริมาณน้ำที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2564 กำไรสุทธิของบริษัทฯ ลดลง 427 ล้านบาท หรือร้อยละ 19 โดยมีสาเหตุหลักจากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรขึ้นต้นของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ลดลง ประกอบกับโรงไฟฟ้าโกลว์ พลังงาน ระยะที่ 5 ได้หยุดเดินเครื่องนอกแผนงาน ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.2564 ถึงแม้ว่าปริมาณการขายไอน้ำให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า PP ลดลงจากการหยุดซ่อมบำรุงของโรงไฟฟ้าเก็คโค่วัน ทำให้รายได้ค่าความพร้อมจ่ายลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีเพิ่มขึ้น จากปริมาณน้ำที่มากขึ้นในช่วงฤดูฝน
บริษัทฯ รับรู้มูลค่า Synergy จากการควบรวมกิจการสุทธิหลังภาษีจำนวน 432 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ซึ่งส่วนหลักได้รับจากการบริหารจัดการการผลิตและใช้โครงข่ายไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน การบริหารส่วนการพาณิชย์ด้านต้นทุน การผลิตและการขยายฐานลูกค้า การบริหารจัดการงานจัดซื้อและงานซ่อมบำรุงรักษา