"กสิกรไทย" มอง SCB ซื้อ Bitkub หนุน ROE มูลค่าหุ้นระยะยาว ให้ราคาพื้นฐาน 139 บาท

บล.กสิกรไทย คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (8-12 พ.ย.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,635 จุด +/- หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาค่อนข้างดี โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 269,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 275,000 ราย และต่ำกว่า 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน แสดงถึงตัวเลขการจ้างสหรัฐฟื้นตัวดีต่อเนื่อง โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีช่วยสนับสนุน sentiment บวกต่อการลงทุน

ด้านสำนักงานควบคุมกฎระเบียบยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพของสหราชอาณาจักร (MHRA) ให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์สำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิดแล้ว ส่งผลให้สหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกของโลกที่ให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยาเม็ดรับประทานชนิดแรกที่ใช้สำหรับการรักษาโรคโควิด

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) คาดว่าจะให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในช่วงต้นเดือนธ.ค. และองค์การยาแห่งยุโรป (EMA) ได้เริ่มต้นกระบวนการประเมินประสิทธิภาพของยาโมลนูพิราเวียร์อย่างเร่งด่วน ช่วยผ่อนคลายความกังวลของการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์เดลต้าพลัสที่กำลังเร่งตัวขึ้นในสหราชอาณาจักรในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนการ ประชุมโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 400,000 บาร์เรล/วัน ตามตลาดคาด ถึงแม้ว่าสหรัฐได้กดดันให้ โอเปกพลัส เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของ ราคาน้ำมัน ก็ตาม โดยที่ประชุมคาดว่าตลาดน้ำมันจะ deficit (OECD oil inventory ลดลง) เพียงเล็กน้อยในไตรมาส 4 นี้ ก่อนที่จะกลับมาเป็น surplus (OECD oil inventory เพิ่มขึ้น) ในปีหน้า รวมถึงมีความกังวลเพิ่มขึ้นต่อความต้องการใช้น้ำมันในจีนลดลงจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

โดยฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองต่อ ราคาน้ำมันดิบ ว่าจะยังทรงตัวในระดับสูงไปจนถึงสิ้นปี ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลงในต้นปีหน้าจาก การณ์น้ำมันที่จะกลับมาเป็น surplus ภายในไตรมาส 1 ปี 2022 จึงยังคงมุมมองราคาน้ำมันดิบ Brent ปี 2021-23 ที่ USD67/66/63 ตามลำดับ โดยแนะนำนักลงทุนให้เปลี่ยนกลุ่มหุ้นลงทุนจากกลุ่มหุ้นต้นน้ำเป็นกลุ่มหุ้นปลายน้ำอย่างค้าปลีกน้ำมัน รวมถึงกลุ่มโรงกลั่นจากมุมมองค่าการกลั่นที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า

ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตาม

- 8 พ.ย. : รายงานการส่งสินค้าออกของจีน (ปีต่อปี) (ต.ค.) ตลาดคาด 24.5%, ปริมาณการนำเข้าสินค้าของจีน (ปีต่อปี) (ต.ค.) ตลาดคาด 25.0%, รายงานสรุปความคิดเห็นของธนาคารกลางญี่ปุ่น 

- 9 พ.ย. : ปริมาณการส่งออกของเยอรมนี (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.) ตลาดคาด 0.5%, ดุลการค้าของเยอรมนี (ก.ย.) ตลาดคาด 15.8B, ดัชนีภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันของเยอรมนีจากสถาบัน ZEW (พ.ย.) ตลาดคาด 19.4

-10 พ.ย. : รายงานคาดการณ์ภาวะอุปสงค์และอุปทานสินค้าเกษตรโลก (WASDE), รายงานสินค้าคงเหลือของน้ำมันดิบประจำไตรมาสจาก API, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน (เดือนต่อเดือน) (ต.ค.) ตลาดคาด 0.6%, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนี (ปีต่อปี)( ต.ค.) ตลาดคาด 4.5%, ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) (ต.ค.) ตลาดคาด 0.3%

-11 พ.ย. : การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของจีน (Fixed Asset Investment) (ปีต่อปี) (ต.ค.) ตลาดคาด 6.3%   

-12 พ.ย. ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs (ก.ย.) ตลาดคาด10.925M

โดยมีหุ้น (Top Picks) แนะนำ ดังนี้

- SCB (ราคาพื้นฐาน 139.00 บาท) มีมุมมองบวกต่อประเด็นการเข้าลงทุนใน Bitkub สัดส่วน 51% ซึ่งจะช่วยเป็นทางลัดสู่ platform การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของ SCBS ทั้งนี้ Bitkub ถือเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูงและจะช่วยเพิ่ม ROE และมูลค่าหุ้นในระยะยาว สอดคล้องกับแผนปรับโครงสร้างบริษัทที่ประกาศในช่วงที่ผ่านมา

- AEONTS (ราคาพื้นฐาน 249.00 บาท) สถาณการณ์ดีขึ้นมากตั้งแต่เดือน ก.ย. บริษัทจะเปิดตัว platform สินเชื่อดิจิทัลและประกันภัยออนไลน์ในครึ่งหลังของปีนี้เพื่อกระตุ้นยอดขาย ทั้งนี้เรามองว่า AEONTS ยังมีจุดแข็งในการแข่งขันอยู่บนเส้นทางของการฟื้นตัวและราคาหุ้นยัง laggard