STGT - คาดกำไรสุทธิ 4Q อาจลดลงต่อ (10 พ.ย. 64)

STGT - คาดกำไรสุทธิ 4Q อาจลดลงต่อ (10 พ.ย. 64)

กำไรสุทธิ 3Q เพิ่มขึ้นเพียง 3%yoy เป็น 4.5พันลบ. แต่ลดลง 38% qoq บริษัทประกาศจ่ายปันผล 1.25บาทต่อหุ้นจากการดำเนินงานใน 3Q  

กำไร 4Q มีแนวโน้มลดลง qoq จากราคาขายเฉลี่ยลดลง ASP เราคงมุมมองเชิงลบจากซัพพลายทั่วโลกเพิ่มขึ้นจะลดราคาขายเฉลี่ย คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 29.25 บาทต่อหุ้น (จาก 36.75บาท)

 

กำไรสุทธิ 3Q ที่ 4.5 พันลบ.

STGT รายงานกำไรสุทธิ 4.5 พันลบ. ใน 3Q (+3%yoy, -38%qoq) ต่ำกว่าที่เราคาด 14% เนื่องจาก (1) ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1,531 บาท (USD46.7) ต่อ 1,000 ชิ้น (+34%yoy -32%qoq) ต่ำกว่าสมมติฐานที่ 1,600 บาท (2) ปริมาณขายทรงตัว yoy แต่ฟื้นตัว 24%qoq เป็น 7.1 พันล้านชิ้น ต่ำกว่าสมมติฐานที่ 7.3 พันล้านชิ้น และ (3) อัตรากำไรขั้นต้น 3Q ลดลงเป็น 51.5% จาก 66.7% ใน 2Q จากราคาขายเฉลี่ยลดลง เทียบกับสมมติฐานที่ 54% รวมถึง (4) SG&A ที่เพิ่มขึ้น 25% หรือ 120 ลบ. จากการขาดแคลนคอนเทนเนอร์ทั่วโลกและความแออัดของเส้นทางเดินเรือ

 

กำไร 4Q มีแนวโน้มลดลง qoq

คาดราคาขายเฉลี่ยใน 4Q ลดลง 25% qoq เป็น 1,150 บาทต่อ 1,000 ชิ้นเนื่องจากกำลังการผลิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะถุงมือไนรไตรจากจีน หากต้นทุนการผลิตคงที่ อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเป็น 35.0% จาก 51.5% ใน 3Q และหากปริมาณขายคงที่ที่ 7.1 พันล้านชิ้นใน 4Q รายได้การขายจะลดลง 25%qoq เป็น 8.2 พันลบ. และกำไร 4Q จะลดลง 50%qoq เป็น 2.3 พันลบ. เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นลดลง

 

 

 

 

การขาดแคลนคอนเทนเนอร์กระทบปริมาณการส่งออกและอัตราการผลิต

บริษัทอาจสามารถส่งผ่านต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นให้ลูกค้า แต่การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ยังกระทบปริมาณการส่งออกและกระทบอัตราการผลิตลดลงเหลือ 90% ใน 3Q ต่ำกว่า 95% ในช่วง 3Q20-1Q21 (อัตราการผลิตใน 2Q21 ลดลงเหลือ 82% จากการระบาดของโควิด 19 ในโรงงาน 2 แห่ง)

 

คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 29.25 บาท (จาก 36.75บาท)

เราปรับคาดการณ์กำไรปี FY21F-FY22F ลง 5% และ 20% เป็น 2.42 และ 1.04หมื่นลบ. หลังปรับลดอัตราการผลิตและอัตรากำไรขั้นต้น เราคงคำแนะนำ ถือ จากซัพพลายทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าอุปทาน จะทำให้ราคาขายเฉลียลดลงอย่างรวดเร็ว ราคาเป้าหมายใหม่ของเราอ้างอิง 8x FY22F EPS