ตลาดกาแฟแข่งรอบทิศ ยักษ์ใหญ่ ชิงขุมทอง "หมื่นล้าน"

เสรี อนุพันธนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ระบาดเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจกาแฟอย่างมาก โดยเฉพาะร้านกาแฟที่ตอบสนองการบริโภคกาแฟนอกบ้าน ตลาดมีการหดตัวสูงถึง 30-40% เนื่องจากผู้บริโภคต้องทำงานที่บ้าน อยู่บ้านมากขึ้น กังวลการออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน กลับกันปัจจัยดังกล่าวทำให้การบริโภคกาแฟภายในบ้านมีเการเติบโตขึ้นถึง 10%

ทั้งนี้ ร้านกาแฟอินทนิล ได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้บริษัทจะมีร้านกาแฟในห้างค้าปลีกไม่มากนัก แต่อยู่ในสถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม)ราว 70% นอกปั๊ม 30% แต่การที่ผู้คนเดินทางน้อยลง ทำให้ภาพรวมหดตัวตามไปด้วย

สำหรับการเติบโตของยอดขายที่ลดลง ทำให้บริษัทปรับตัวหลายด้านเริ่มจากดูแลพนักงานให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 รวมถึงดูแลร้านที่เป็นแฟรนไชส์ต่างๆเพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยสุด ขณะเดียวกนยังเดินหน้าประคองยอดขาย ด้วยการออกกลยุทธ์การตลาด ทำแคมเปญต่างๆ เช่น ซื้อเครื่องดื่ม 1 แถม 1 ซื้อเครื่องดื่มแก้วที่ 2 ในราคา 1 บาท 2 บาท เป็นต้น การดึงฮีโร่โปรดักท์ทั้งกาแฟ โก้โก้ การจัดลอยัลตี้โปรแกรม ดึงให้ผู้บริโภคขาประจำยังคงสั่งเครื่องดื่มต่อเนื่อง

++บางจาก ปักหมุดร้านอินทนิล 1,000 สาขา

ขณะเดียวกันต้องบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เจรจาเรื่องค่าเช่ารูปแบบต่างๆ มุ่งเน้นการบริหารร้านแต่ละทำเลเพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงมีการพัฒนาร้านโมเดลใหม่ๆ เช่น รูปแบบช้อปอินช้อป แทนการเปิดร้านขนาดใหญ่เพื่อเข้าถึงพื้นที่ต่างๆมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนในการเปิดร้าน สำหรับแผนการขยายธุรกิจร้านกาแฟอินทนิลปี 2565 บริษัทยังเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มสานเป้าหมาย 1,000 สาขา จากปัจจุบันมีร้านราว 750 สาขา

“ปีหน้าการเปิดสาขาจะหาขนาดและรูปแบบร้านเล็กมากขี้นเพื่อขยายไม่ว่าจะเป็นคีออส และช้อปอินช้อป รวมถึงรถเคลื่อนที่หรือโมบาย เพื่อเจาะทำเลต่างๆ และยังเป็นการลดต้นทุนในการบริหารการดำเนินงานด้วย”

สำหรับภาพรวมธุรกิจร้านกาแฟปี 2565 คาดการณ์จะฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น เนื่องจากชาวไทยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากขึ้นแตะระดับ 60-70% ที่จะช่วยสร้าางภูมิต้านทานที่ดีได้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจยังมีความท้าทายจากความไม่แน่นอน ความผันผวน ความคลุมเครือหรือ VUCA World รอบด้านทั้งเศรษฐกิจ สถานการณ์โรคภัยไข้เจ็บ ผู้ประกอบการจึงต้องวางแผนธุรกิจให้ดี โดยเฉพาะการมีแผนบริการจัดการความเสี่ยงรองรับสิ่งที่ไม่คาดคิด

“เป้าหมายการเติบโตปีหน้าตั้งได้ว่าจะโตจากการเปิดสาขาใหม่หรือร้านเดิม(Same store) จะเติบโตอัตราเท่าไหร่ แต่ผู้ประกอบการต้องทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงรองรับกรณีที่โควิด-19 ยังไม่หายไป หรือมีโอกาสกลับมาระบาดอีกรอบ เพื่อไม่ให้ธุรกิจสะดุด”

++เนสกาแฟ รุกหนักสาวกดื่มคาเฟอีนในบ้าน

ขณะที่กาแฟนอกบ้านหดตัวค่อนข้างหนัก ตลาดกาแฟในบ้านเติบโต ทำให้แบรนด์เจ้าตลาดเดินเกมรุกเพื่อกระตุ้นยอดขายและรักษาการเติบโต ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่อาหารและเครื่องดื่ม “เนสท์เล่” ทุ่มเงิน 60 ล้านบาท เปิดตัว Moveable 4D Experience โฆษณาเคลื่อนที่สี่มิติครั้งแรกในประเทศไทย ที่มาครบทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ให้กับผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง “เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู”

โจโจ้ เดลา ครูซ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟและครีมเทียม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เล่าว่า ในฐานะผู้นำตลาดกาแฟในประเทศไทย ต้องไม่หยุดการนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างสุขและเชื่อมความผูกพัน(เอ็นเกจเมนต์)ให้กับคอกาแฟ โค้งสุดท้ายปีจึงสร้างสร้างสรรค์โฆษณาในรูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงประสบการณ์การกับแบรนด์ เพราะจะได้ชนแก้วกับพรีเซ็นเตอร์เสมือนจริง เสิร์ฟกาแฟกลิ่นหอม เป็นต้น

ทั้งนี้ สำหรับโฆษณา 4D เคลื่อนที่นี้ จะเริ่มออกเดินสายโรดโชว์ไปชงกำลังใจให้กับผู้บริโภคในย่านชุมชนและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ 900 แห่งใน 300 อำเภอทั่วประเทศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2565 และคาดว่าข้าถึงผู้บริโภคกว่า 2 ล้านคนทั่วประเทศ ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของเนสกาแฟอย่างเหนียวแน่น

++ซันโทรี่ เป๊ปซี่ฯ เสิร์ฟ "บอส คอฟฟี่" จากญี่ปุ่นถึงไทย

แม้เป็นยักษ์ใหญ่น้ำอัดลม แต่การขยายพอร์ตโฟลิโอเครื่องดื่มให้หลากหลายตอบสนองผู้บริโภคเป็นภารกิจที่ “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค” ยังคงเดินหน้าทำตลาด ล่าสุด คิกออฟการทำตลาด “กาแฟพร้อมดื่ม” แบรนด์ “บอส คอฟฟี่” อันดับ 1 จากี่ปุ่นสงตรงถึงผู้บริโภคชาวไทย

อชิต โจชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพว่า การเปิดตัวของ “บอส คอฟฟี่” กาแฟพร้อมดื่ม เพื่อขานรับเทรนด์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ ขณะเดียวกันเป็นก้าวสำคัญของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ในการเสริมสร้างการเติบโตผ่านการขยายกลุ่มนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อเป็นทางเลือกสุขภาพ ย้ำวิสัยทัศน์ ‘การเติบโตอย่างยั่งยืน’ หรือ Growing for Good ด้วย

ส่วนจุดแข็งของ “บอส คอฟฟี่” ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หัวหอกของซันโทรี่ฯ ที่ทำตลาดมานานเกือบ 30 ปี และเป็นมียอดขายเป็น “อันดับ 1” ในประเทศญี่ปุ่นด้วย

ขณะที่การบุกตลาดกาแฟพร้อมดื่มในไทย บอส คอฟฟี่ ส่ง 3 สูตร เจาะกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ บอส คอฟฟี่ สูตรโน ชูการ์, บอส คอฟฟี่ สูตรไมลด์ลี่ สวีท และบอส คอฟฟี่ สูตรลาเต้ (BOSS Coffee Latte) ทั้งหมดได้รับเครื่องหมายทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice) โดยสินค้ามาในบรรจุภัณฑ์ขวด PET ขนาด 250 มิลลิลิตร ราคา 35 บาท จำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก-ส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

++กาแฟพร้อมดื่มขุมทอง 12,000 ล้านบาท

สำหรับตลาดกาแฟพร้อมดื่ม (Ready To Drink Coffee : RTD)ในไท ปี 2563 มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท หากเจาะลึกตลาดกาแฟพร้อมดื่มระดับพรีเมียม โดยเฉพาะปีนี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่สัดส่วนตลาดอยู่ที่ประมาณ 11.5%

ทั้งนี้ ผู้เล่นรายใหม่ส่งสินค้าเข้ามาช่วยกระตุ้นให้ตลาดคึกคักและเติบโตอย่างต่อเนื่อง และหากสำรวจชั้นวาง(เชลฟ์)กาแฟพร้อมดื่มจะเห็นบิ๊กแบรนด์อื่นๆ อย่าง “เซกาเฟรโด” แบรนด์ดังจากอิตาลีที่ส่งกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มมาท้าชิงในตลาด RTD เช่นกัน โดยขนาด 180 มิลลิลิตร(มล.) ราคา 25 บาท