ปรับคาดการณ์อสังหาฯหลังปลดล็อกแอลทีวีคาดปี65มูลค่าโอนแตะ9แสนล้านบาท

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่าการแพร่ระบาดของ โควิด -19 รอบใหม่ ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาฯ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ คาดการณ์ตลาดอสังหาฯ ปี 2564 จะมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ 2.7 แสนยูนิตแต่หลังจากมีการปลดล็อกมาตรการแอลทีวี คาดว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นเป็น  2.86 แสนยูนิต หรือเพิ่มขึ้นราว 10,000 ยูนิต ซึ่งอยู่ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายอาจช่วยผลักดันตัวเลขได้น้อย

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปี 2565 ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์กลับมาอยู่ที่ 3 แสนยูนิตในภาพรวม  ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์แนวราบมากกว่า 2 แสนยูนิต 

สำหรับภาพรวมมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศปีนี้คาดการณ์ไว้ที่ 8 แสนล้านบาท แต่หลังจากปลดล็อกมาตรการแอลทีวี คาดว่า จะขยับเป็น 8.6 แสนล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 2.7 แสนล้านบาท แนวราบ 5.8 แสนล้านบาท 

 

"ปีหน้าเราอาจได้เห็นตัวเลข 8 แสนล้านบาท แตะ 9 แสนล้านบาท กลับมาอีกครั้ง ถือว่าเป็นข่าวดี ที่มีการเติบโตในของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 1.4% กรณี Base Case แต่ถ้าเป็น Best Case จะโตถึง 18% หรือคิดเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านบาท พร้อมกับที่เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาด้วย”

ในภาพรวมจะเห็นว่าปีนี้ ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ จะเห็นตัวเลข 1.7 แสนยูนิตเพิ่มขึ้น ส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 6.1 แสนล้านบาท จาก 5.87 แสนล้านบาท ทำให้ตลาดอสังหาฯ คึกคักขึ้น ส่งผลทิศทางปีหน้าเติบโตขึ้นเช่นกัน โดยส่วนแบ่งการโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ มีมูลค่าถึง 6 แสนล้านบาท จากทั้งหมด 8 แสนล้านบาท สะท้อนว่า กรุงเทพฯ ยังคงเป็นพื้นที่หลักในการลงทุน

สำหรับที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปี 2564 ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา “ติดลบ” แทบทุกเดือนต่อเนื่องจากปี 2563 และค่าเฉลี่ยของการเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เดือน ม.ค. ต่ำลงค่อนข้างมาก คอนโดมิเนียมเปิดน้อยกว่าบ้านแนวราบ เป็นการเปลี่ยนแปลงในแนวลบทั้งสิ้น แม้ว่าเดือน เม.ย.แนวราบ ขยายตัว 220% จากปี 2563 ติดลบ 84.5% เป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำ

ส่งผลให้ภาพรวมปี 2564 ตั้งแต่ไตรมาสแรกถึงไตรมาส 3 “ไม่ดี” คาดว่าการเปิดตัวโครงการในไตรมาส 4 จะเพิ่มขึ้นแต่ยังคง “ต่ำ” กว่าค่าเฉลี่ย  สะท้อนความรู้สึก (sentiment) ของผู้ประกอบการในการลงทุนเริ่มปรับตัวดีขึ้นทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ คาดการณ์ว่าหน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปี 2564 กรณี Base Case มีจำนวน 43,051 ยูนิต เป็นคอนโดมิเนียม 17,268 ยูนิต และแนวราบ 25,783ยูนิต กรณี Best Case รวม 47,356 ยูนิต เป็น คอนโดมิเนียม 18,995 ยูนิต และแนวราบ 28,361 ยูนิต

“แต่โดยภาพรวมยังคงคิดลบทั้งปีทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมแม้จะในสถานการณ์ที่ดีสุด ส่วนปี 2565 ภาพรวมน่าจะดีขึ้นในแง่การลงทุนเพราะสอดรับสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีการปรับตัวดีขึ้น”