เอสแอนด์พี หวังวิกฤติโควิดอยู่ก้นเหว ลุ้นปีหน้าร้านอาหาร เบเกอรี่โต 30%
ไตรมาส 3 ธุรกิจร้านอาหารอ่วม หลังถูกล็อกดาวน์ปิดหน้าร้านยาว 2 เดือน เอสแอนด์พี ขายสินค้าไม่ได้ 200 สาขา ปรับกลยุทธ์ขายเค้กวันแม่ ขนมไหว้พระจันทร์ล่วงหน้า กอบกู้ธุรกิจ เสริมทัพเดลเวอรี พลิกโต กางแผนปี 65 เปิดเดลต้า เอสแอนด์พี เบเกอรี มาร์ท ขยายฮับ เสิร์ฟเบเกอรี ย้ำผู้นำตลาด
นายวิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารและเบเกอรีเอสแอนด์พีในไตรมาส 3 ถือว่าได้รับผลกระทบหนักมาก จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐเพื่อสกัดโรคโควิด-19 ส่งผลให้ร้านกว่า 200 สาขา ต้องปิดให้บริการและไม่สามารถบริการซื้อกลับบ้านได้ แต่จากการปรับตัวทั้งเปิดตลาดนัดหรือเอสแอนด์พี มาร์เก็ตเพลส การเปิดรับพรีออเดอร์เค้กวันแม่ล่วงหน้า การจำหน่ายขนมไว้พระจันทร์ ให้บริการเดลิเวอรีในเชิงรุก รวมถึงโฟกัสการจำหน่ายอาหารแช่แข็งแบบปลีกทั้งไส้กรอก เค้กแช่แข็ง อาหารพร้อมรับประทานผ่านร้านสะดวกซื้อ กลับทำให้บริษัทพลิกธุรกิจให้พ้นช่วงยากลำบากได้
ทั้งนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3 บริษัทสร้างยอดขายรวม 1,186 ล้านบาท หดตัว 15% จากช่วงเดีวกันปีก่อน แต่เติบโต 12% จากไตรมาส ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีสุดของปีนี้ ส่วนกำไรอยู่ที่ 95 ล้านบาท ลดลง 59 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ 9 เดือน มียอดขาย 3,822 ล้านบาท ลดลง 22% กำไรสุทธิ 218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142 ล้านบาท หรือโต 187%
สำหรับธุรกิจที่หนุนให้การเติบโตสูง เช่น เดลิเวอรี เติบโต 66% ยอดขายเค้กวันแม่ 4 วัน เติบโตเท่าปีก่อน ทั้งที่หน้าร้านถูกปิดเกือบหมด ขนมไว้พระจันทร์จำหน่าย 60 วัน เติบโต 125% อาหารขายปลีกเติบโต 35% ซึ่งเดิมสินค้าดังกล่าวทำตลาดมานาน แต่ช่วงโควิดกลายเป็น “ฮีโร่ โปรดักท์” เพราะผู้บริโภคซื้อไว้ตุนเพื่อรับประทานระหว่างอยู่บ้าน ทำงานที่บ้านมากขึ้น
“ไตรมาส 3 เป็นไตรมาสที่โหด สาหัสสำหรับธุรกิจร้านอาหาร อย่างร้านเอสแอนด์พีต้องถูกล็อกดาวน์ 200 สาขา นานถึง 2 เดือน แต่ที่สุดเราก็ทำธุรกิจให้มีกำไรได้ อย่างไรก็ตาม วิกฤติโควิด-19 ในปี 2564 อยู่ก้นเหวแล้ว โดยโควิดระบาดถือเป็นอาจารย์ให้บทเรียนเอนแอนด์พีมากมาย ได้ลุกขึ้นมาปรับตัว ทำสิ่งที่ไม่เคยทำทั้ง Agile ยืดหยุ่นทำงาน ปรับมายด์เซ็ท มีวิธีคิดสร้างการเติบโตซึ่งสำคัญมาก ทีมงานทุกส่วนระดมสมองสปั้นโมเดลมาร์เก็ต เพลส ดึงจุดแข็งที่มีมาต่อยอดทำให้บริษัทอยู่รอด และรอดอย่างดีด้วย”
ส่วนแผนไตรมาส 4 ต่อเนื่องถึงปีหน้าการขับเคลื่อนธุรกิจจะโฟกัสบริการเดลิเวอรีมากขึ้น ผลักดันให้เติบโต “เท่าตัว” รวมถึงเดินหน้าขยายร้านเดลต้าให้แตะ 31 สาขา จากปัจจุบันมี 17 สาขา เฉพาะไตรมาส 4 จะขยายเพิ่ม 14 สาขา ส่วนปีหน้าจะเปิดเพิ่ม 21 สาขา การกระตุ้นให้ผู้บริโภคใช้แอ๊พพลิเคชั่น 1344 เดลิเวอรีเพิ่มจากปัจจุบันมีอยู่ราว 20% นอกจากนี้ จะเดินหน้าเปิดร้านเอสแอนด์พี เบเกอรี มาร์ทเพิ่ม 10 จุด หลังจากปรับโฉมร้านเเดิม หวังสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ เอสแอนด์พี เบเกอรี มาร์ท รูปแบบใหม่มีขนาดใหญ่ขึ้น พื้นที่เฉลี่ย 60-90 ตารางเมตร(ตร.ม.) ลงทุนเฉลี่ย 2.5-3 ล้านบาทต่อสาขา หลังปรับทำให้ยอดขายเเพิ่ม 25-30% หรือเฉลี่ยราว 1 ล้านบาท รวมถึงการขยายฮับของเบเกอรีให้เป็น 9 จุด เสริมร้านเบเกอรีที่มี 91 สาขา จากปัจจุบันมีฮับอยู่ 4 จุด ที่สีลม ฯ
“ปีหน้าเอสแอนด์พี เบเกอรี มาร์ท เป็นอาวุธสำคัญที่จะบุกตลาด และจะเพิ่มฮับเพื่อช่วยเพิ่มยอดขายร้านเบเกอรี เพราะฮับจะเป็นคนส่งเบเกอรีตรงไปยังร้าน โดยที่ร้านไม่ต้องผลิตเองที่สาขา”
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าทำตลาดคุกกี้ กระเช้า เพื่อรับเทศกาลเฉลิมฉลอง เทศกาลปีใหม่ด้วย คาดว่าจะสร้างยอดขายเติบโต 16% โดยแนวโน้มไตรมาส 4 ภาพรวมธุรกิจฟื้นตัวดีจากการเปิดเมือง ไม่มีล็อกดาวน์ ผู้บริโภคออกมาใ้ช้จ่ายปกติ และคาดว่าเป็นปัจจัยบวกให้ธุรกิจจะเติบโต 5-8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่แผนการเคลื่อนธุรกิจเชิงรุกข้างต้นจะผลักดันให้ยอดขายปี 2565 เติบโต 30%