ทุนตุรกี ลุยตลาดคอนซูเมอร์ไทย นำร่อง “โมลฟิกซ์”ชิงเค้กผ้าอ้อมเด็ก
ฮายัท กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ธุรกิจตุรกี ที่มีกิจการทั้งอสังหาริมทรัพย์ อุตสหากรรม อุตสาหกรรมบริหารท่าเรือ และสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เป็นผู้ผลิตผ้าอ้อมรายใหญ่ 1 ใน 5 ของโลก ซุ่มศึกษาวิจัยตลาดสินค้าในเอเชียและไทย 4 ปีเห็นโอกาสทางการตลาด จึงปักหมุดสร้างฐานทัพธุรกิจลุยอาเซียน
นายฮาสซาน อูจร์ รองประธานบริหารประจำภูมิภาคเอเชียบริษัท ฮายัท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทศึกษาตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในเอเชียและไทยเป็นเวลา 4 ปี โดยเฉพาะตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูป ซึ่งพบว่าขนาดตลาดในไทยมีมูลค่าถึง 8,000 ล้านบาท แม้จะเติบโตทรงตัว แต่เมื่อพิจารณอัตราการเกิดที่มีถึง 700,000 คนต่อปี แต่ทางเลือกใช้ผ้าอ้อมกลับมีเพียง 2 แบรนด์หลักเท่านั้น
ทั้งนี้ ขนาดตลาดที่ใหญ่ ผู้เล่นน้อยราย บริษัทจึงมองเห็นช่องว่างในการนำสินค้าผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบรนด์ “โมลฟิกซ์”(Molfix) เข้าทำตลาด โดยชูจุดเด่นการเป็นสินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติหรือออแกนิก และโมลฟิกซ์ ยังเป็นผ้าอ้อม 1 ใน 5 รายใหญ่ของโลก เป็นผู้นำตลาดในหลายประเทศ เช่น ตุรกี อิหร่าน และยุโรปตะวันออก สามารถต่อยอดในไทยได้
ขณะเดียวกันจะสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านคุณแม่มือใหม่อย่าง “ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมกับกิจกรรมการตลาดอื่นๆที่จะมาตามในอนาคต ส่วนช่องทางจำหน่ายสินค้าประเดิมร้านค้าทั่วไป และเตรียมขยายสู่อีคอมเมิร์ซ อนาคตจะเพิ่มช่องทางสู่ห้างค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรด
“โมลฟิกซ์มีฐานผลิตผ้าอ้อมใน 7 ประเทศทั่วโลก ฐานการผลิตล่าสุดคือการตั้งโรงงานในประเทศเวียดนาม การเลือกประเทศดังกล่าวเนื่องจากเงื่อนไขด้านการเงิน การลงทุน และที่ผ่านมาบริษัทได้ศึกษาตลาดผ้าอ้อมสำเร็จรูปในอาเซียน 3 ประเทศทั้งเวียดนาม มาเลเซีย และไทย การบุกตลาดในไทยเพราะเห็นโอกาสตลาดที่มีคู่แข่งน้อยเพียง 2 แบรนด์ที่ครองตลาด เทียบกับตุรกี การแข่งขันสูงกว่ามาก เพราะมีผู้เล่นจำนวนมาก ความสำเร็จที่บริษัทมีจะนำมาต่อยอดในประเทศไทย”
ทั้งนี้ เป้าหมายการทำตลาดผ้อมในประเทศไทย 2-3 ปีแรก ต้องการส่วนแบ่งทางการตลาด 10% หรือก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 2 ส่วนภายใน 5 ปี ต้องมีเป็นผู้นำตลาด ซึ่งจะต้องมีส่วนแบ่งทางการตลาด 40-50%
อย่างไรก็ตาม ตลาดผ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็ก เป็นเวทีที่ชิงกันหลายแบรนด์ โดยรายใหญ่ เช่น แพมเพิส จากพีแอนด์จี ที่มีหลากแบรนด์อยู่ภายใต้แบรนด์หลัก กูน เครือสหพัฒน์ทำตลาด, มามี่โพโค จากยูนิชาร์ม, ฮักกี้ส์ จากคิมเบอร์ลี่ คลาร์ก และเมอร์รี่ จากคาโอ และเบบี้ เลิฟ จากอีเอสจีฯ เป็นต้น
นอกจากผ้าอ้อมนำร่องทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคแล้ว ระยะยาวฮายัท กรุ๊ป ต้องการเติมพอร์ตโฟลิโอสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น โดยวางแผนจะนำผลิตภัณฑ์ผงซักฟอก ผ้าอนามัย สินค้าดูแลภายในบ้านต่างๆ เข้ามาเสริมทัพด้วย สำหรับผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคของบริษัทมีมากมาย เช่น ผลิตภัณฑ์ซักผ้าและทำความสะอาดพื้น “บิงโก”(Bingo) ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่แบรนด์ “โจลี่”(Joly) หน้ากากอนามัยอีโนวี่(Enovy) และผ้าอนาามัยโมลเพ็ด(Molped) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผ้าอ้อมสำเร็จรูปโมลฟิกซ์ ในฐานะเป็นผู้ผลิต 1 ใน 5 รายใหญ่ของโลก สร้างยอดขายราว 7,800 ล้านชิ้น