อรรถพล ชูพลังงานสะอาด - รถ EV หนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ชี้ ปตท.เร่งการลงทุน
ปตท.รุกลงทุนพลังงานสะอาด รถยนต์ไฟฟ้า สร้างการเติบโตสอดคล้องเทรนด์โลก "อรรถพล" ฉายภาพ Reinvest หนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย เล็งใช้แพลตฟอร์ม - สถานีบริการน้ำมัน ช่วยเอสเอ็มอี - ชุมชน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวในการเสวนาหัวข้อ “มุมมองใหม่ ฝ่าเศรษฐกิจไทย ปี 2022” ในงาน "INTANIA DINNER TALK" จัดโดยสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า ทิศทางการพัฒนาประเทศไทยหลังวิกฤตภาครัฐและเอกชนมีบทบาทในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นฟูโดยเร็ว
โดยภาครัฐมีหน้าที่ดูแลคนฐานราก ส่วนภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญด้านการลงทุน ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องลงทุนใหม่ (Reinvest) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแกร่ง โดยการลงทุนของปตท.ถือว่าสอดคล้องกับช่วงเวลาและทิศทางการลงทุนของประเทศหลังจากที่ก่อนหน้านี้ประเทศไทยไม่ได้มีการลงทุนขนาดใหญ่มาเป็นระยะเวลายาวนาน
ทั้งนี้การลงทุนจะต้องลงทุนบนพื้นฐานที่มีความถนัดและความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว พร้อมสร้างนวัตกรรมเองหรือร่วมมือกับผู้อื่น โดยปตท.จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ของไทยประสบความสำเร็จ
โดยแผนการลงทุนของ ปตท.ในระยะต่อไปจนถึงปี 2030 บริษัทฯ จะเน้นลงทุนด้านพลังงานสะอาดซึ่งมีเป้าหมายที่จะมีการผลิตไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาดในปี 2030 ประมาณ 1.2 หมื่นเมกะวัตต์
ส่วนในพลังงานฟอสซิลเดิมสามารถพูดได้เลยว่าจะทยอยลดและเลิก โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจถ่านหินเพราะไม่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาที่เป็นเทรนด์ของโลก รวมทั้งธุรกิจโรงกลั่นก็จะไม่มีการขยายเพิ่มเติมเพียงแต่รักษาระดับการผลิตเอาไว้ให้เท่าเดิม
ส่วนธุรกิจใหม่นอกเหนือจากพลังงานก็จะมีการลงทุนไปในหลากหลายธุรกิจ เช่น ผลิตภัณฑ์ยา บริการทางการแพทย์ ธุรกิจที่มีมูลค่าสูง ธุรกิจไลฟ์สไตล์ และ Mobility โลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนเทคโนโลยีหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ (AI Robotics)
ทั้งนี้ตั้งเป้าว่าภายในปี 2573 จะมีรายได้จากธุรกิจใหม่ประมาณ 30% ของรายได้ทั้งหมดจากปีปัจจุบันรายได้ของธุรกิจเหล่านี้มีประมาณ 1% แต่จากโมเดลและแผนธุรกิจที่ชัดเจนของบริษัทจะทำให้รายได้จากธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปตท.ยังเพิ่งมีการจัดตั้งบริษัทรีแอค จำกัด หรือ “ReAcc” โดย Alpha Com ถือหุ้น 100% ด้วยทุนจดทะเบียน 29 ล้านบาทเพื่อเป็นตัวแทนให้บริการซื้อขายด้านพลังงานสะอาด และความเป็นกลางทางก๊าซเรือนกระจก (Climate Neutrality) ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มให้แก่บริษัทที่มีเป้าหมายและต้องการจัดหาพลังงานหมุนเวียน ให้สามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานดังกล่าวได้ง่าย
โดยมีบริการหลัก ในการการซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificates หรือ RECs) ระบบในการซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบ Corporate Power Purchase Agreement (CPPA) และรวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องใช้พลังงานสะอาดด้วย
"ทิศทางการลงทุนของ ปตท.จะเน้นไปในธุรกิจที่เป็นพลังงานสะอาด ที่เป็นพลังงานแห่งอนาคต (Future Ennergy) พลังงานทดแทน ยานยนต์ไฟฟ้า (EV)ซึ่งได้มีการจับมือกับบริษัทฟ็อกซ์คอนน์พันธมิตรจากใต้หวัน ซึ่งการลงทุน EVของ ปตท.จะทำแบบครบวงจรทั้งซัพพายเชนตั้งแต่การผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ตัวรถยนต์ สถานีชาร์จไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อช่วยให้นโยบาย EV ของภาครัฐประสบความสำเร็จและประเทศไทยก้าวสู่การเป็นฮับ EVของอาเซียนได้ในอนาคต"อรรถพล กล่าว
ทั้งนี้นอกจากการขยายธุรกิจขององค์กรแล้ว ก็ยังสร้างโมเดลและแพลตฟอร์มธุรกิจที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs และคนในท้องถิ่นให้เติบโตไปพร้อมกัน เช่น ปั๊มน้ำมันที่เป็นจุดรวมของชุมชน และธุรกิจร้านอเมซอน
ซึ่งทั้งสองธุรกิจมี SMEs เป็นเจ้าของอยู่ประมาณ 80-90% ของสาขาทั้งหมดการบทบาทของ ปตท.ในการช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไปที่จะเห็นความชัดเจนคือเรื่องของการลงทุนซึ่ง ปตท.ได้กำหนดระยะเวลาในการลงทุนครั้งใหญ่ของบริษัทให้สอดรับกับการลงทุนของประเทศที่ถึงเวลาที่จะต้องมีการลงทุนเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่ิอสร้างการเติบโตในอนาคต