เอกชนชงขยาย ‘แซนด์บ็อกซ์’ อุ้มท่องเที่ยว

เอกชนชงขยาย ‘แซนด์บ็อกซ์’ อุ้มท่องเที่ยว

หอการค้าไทยเตรียมชงรัฐบาลขยายแซนด์บ็อกซ์พื้นที่พัทยา ชลบุรี ระยอง และกรุงเทพฯ เพิ่มจากภูเก็ต หวั่นฉุดความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว และนำมาตรการ test & go กลับมาใช้โดยเร็ว

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนั่น อังอุบลกุล ระบุ ได้หารือกับหอการค้าจังหวัดชลบุรีและหอการค้าจังหวัดระยอง ถึงมาตรการต่างๆในการฟื้นฟูและการเตรียมความพร้อมของพื้นที่รองรับการเปิดประเทศ แม้ว่า ศบค. จะมีการปรับแผนชะลอการเดินทางของคนที่จะเข้าประเทศ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ที่ประชุมมีการสะท้อนถึงผลกระทบจากการมีคำสั่งกะทันหันทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจริงๆแล้วการระบาดครั้งนี้ เป็นการกลายพันธุ์ของเชื้อเดิมและ WHO ก็ได้มีคำแนะนำว่าขอให้แต่ละประเทศเพิ่มการระมัดระวัง แต่ไม่เห็นด้วยกับการล็อกดาวน์ ตามที่หลายประเทศได้ดำเนินการไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม จากการหารือเพื่อหาทางจัดการความเสี่ยงของการแพร่รระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้มีการเสนอให้พื้นที่ พัทยา ชลบุรี ระยอง ซึ่งอาจจะรวมถึงกรุงเทพฯและจังหวัดที่มีความพร้อมทั้งการฉีดวัคซีนและจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยให้เป็นพื้นที่ Sandbox ลักษณะเดียวกันกับจังหวัดภูเก็ต โดยที่ประชุมได้ขอให้รัฐบาลพิจารณาเปิดระบบลงทะเบียน Thailand Pass ต่อไป และปรับปรุงระบบ test & go ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักเดินทางที่ได้วางแผนล่วงหน้ามาแล้ว

ทั้งนี้ เพื่อรักษาการจ้างงานซึ่งจะช่วยประคองผู้ประกอบการใน Supply Chain สามารถดำเนินธุรกิจไปได้ โดยเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการและสมาคมด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างเห็นตรงกันว่า ควรเร่งพิจารณาและหามาตรการป้องกันโอมิครอนที่ชัดเจน และนำมาตรการ Test & Go กลับมาใช้โดยเร็ว โดยภาคเอกชนพร้อมที่จะร่วมมือทำตามมาตรการที่ยกระดับ พร้อมตรวจตราให้สมาชิกปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดด้วย เนื่องจากช่วงเวลานี้ผู้ประกอบการด้าน
การท่องเที่ยวพึ่งเริ่มฟื้นตัว และมีความหวังจากนักท่องเที่ยวที่ทยอยเข้าประเทศผ่านมาตรการในช่วง High Season นี้ด้วย   

หอการค้าไทยจะสะท้อนข้อมูลและข้อเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กระทรวงท่องเที่ยวฯ ททท. รวมถึง ภาคสาธารณสุข ให้รับทราบและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งด่วน โดยไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านสารธารณสุขระดับต้น ๆ ของโลก ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจและความปลอดภัยของสุขภาพประชาชนควบคู่กัน และหาแนวทางที่ทุกภาคส่วนยอมรับ ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อไม่ให้กระทบเศรษฐกิจในวงกว้างต่อไป