SCBx ส่ง คาร์ดเอกซ์ บุกเบิกรายได้ครึ่งปีหลัง 65
ธนาคารไทยพาณิชย์“ ทรานฟอร์มสู่ยานแม่ ”เอสซีบีเอกซ์”เสร็จภายในครึ่งปีแรก 65 เริ่มรับรู้รายได้ทันที จากธุรกิจบัตร-สินเชื่อบุคคล หวัง SCBx 5 ปี ดันรายได้โตเป็น 1ใน 3ของรายได้รวม
นายมาณพ เสงี่ยมบุตร ดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการเงิน (Chief Financial Officer) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 2565 คาดประกาศเดือน ม.ค.2565 แต่ ธนาคารคาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปีนี้ เนื่องจาก ภาพรวมเศรษฐกิจที่คาดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หากเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยปี 2565 มีโอกาสเติบโตมากกว่า 35% จากระดับปัจจุบัน โดยมีตัวสนับสนุนจาก ธุรกิจประกัน กองทุน และธุรกิจมั่งคั่ง(เวลธ์) ที่คาดจะเป็นเรือธงในการผลักดันให้รายได้ในส่วนที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมาจากการเข้าไปลงทุนของ บริษัทลูก เอสซีบีเท็นเอกซ์ (SCB10x) ที่คาดว่าจะสร้างรายได้ กำไร ที่เติบโตต่อเนื่อง จากเข้าไปลงทุนในธุรกิจร่วมทุน (VC) และสตาร์ทอัพทั่วโลกของ SCB10x ที่เริ่มสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจธนาคารตั้งแต่ปี 2564
นายมาณพ กล่าวว่า สำหรับกระบวนการปรับโครงสร้างธุรกิจธนาคาร ไปสู่ยานแม่ หรือเอสซีบี เอกซ์ ( SCBx )นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการอนุมัติขั้นสุดท้าย จากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดทรัพย์หลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เกี่ยวกับการขอปรับโครงสร้างธุรกิจไปสู่ “SCBx”
สำหรับกระบวนการปรับโครงสร้างสู่ยานแม่ SCBx ทั้งหมด คาดจะเสร็จภายในครึ่งปีแรก2565 ทั้ง การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของธนาคาร จากผู้ถือหุ้นธนาคาร
โดยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิ ของธนาคาร โดยมีอัตราแลกเปลี่ยน 1 หุ้น SCB ต่อ 1 หุ้น SCBx ซึ่งกำหนดไว้ว่าต้องมีคำตอบรับการเสนอซื้ออย่างน้อย 90% รวมถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(ตลท.)และเพิกถอนหุ้น SCB ในวันเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จกระบวนการ แลกหุ้น และการเข้าจดทะเบียนของ SCBx คาดว่าในครึ่งปีหลัง จะเริ่มเข้าสู่การปรับโครงสร้างธุรกิจของ SCBxต่อเนื่อง คือการแยกธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อธุรกิจส่วนบุคคล มาอยู่ภายใต้ บริษัทคาร์ดเอกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SCBx ที่จะเริ่มมีรายได้ทันทีในครึ่งหลังของปีหน้าเป็นต้นไป ดังนั้นคาดว่าจะเริ่มเห็นราย SCBx ในปี 2565 ทันทีราว 10% ขณะที่อีก 90% รายได้หลักๆยังมาจากธุรกิจธนาคาร
ทั้งนี้ตั้งเป้าว่า ภายใน 5 ปี SCBx จะสร้างรายได้มากกว่า 1ใน3 ของรายได้ทั้งหมดในอนาคต ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2565-2569 โดยการขับเคลื่อนการสร้างรายได้ จาก SCBx ที่จะมาจากสองส่วนหลัก คือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับสินเชื่อดิจิทัลเลนดิ้ง การปล่อยสินเชื่อที่ใช้เทคโนโลยี และอีกส่วนจะมาจาก ธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มที่มีการเติบโตและให้ผลตอบแทนที่สูง
“การแยกโครงสร้างออกมาอย่างชัดเจน มีระบบการกำกับ มีการบริหารจัดการที่เฉพาะเจาะจง และมีแรงจูงใจให้สอดคล้องกับธุรกิจนั้นๆ จะมีส่วนทำให้ธุรกิจภายใต้ SCBx โตเร็วกว่าธุรกิจธนาคาร”